2 เทคนิคการลงทุน แต่ละแบบเป็นแบบไหนบ้าง?

เทคนิคการลงทุน

เทคนิคการลงทุน ในปัจจุบันก็มีหลายแบบ หลายกลุ่ม ซึ่งแบ่งออกไปตามลักษณ์นิสัย ความเสี่ยงที่รับได้ หรือประเภทของตัวที่ลง ดังนั้นผู้ลงทุนควรรู้จักเทคนิคในแนวต่างๆ ก่อน ถ้ารู้จักเทคนิคการลงทุนที่ถูกจริต ก็จะสามารถเลือกกลยุทธ์การลงทุนได้ดีที่สุด บทความนี้จึงจะพูดถึงเทคนิคที่นักลงทุนใช้กัน ว่ามีอะไรและมีลักษณะอย่างไรบ้าง?

เทคนิคการลงทุน สายเทคนิค Technical 

เทคนิคในกลุ่มแรกที่จะเคร่งไปทางดูกราฟ การเก็งกำไรระยะสั้นเป็นหลัก โดยต้องอาศัยเครื่องมือวิเคราะห์ในการดูทิศทางการเป็นไปอย่างละเอียด อย่าง Indicator เพื่อจะได้หาช่องเข้าไปซื้อได้ โดยมักจะต้องคอยดู และวิเคราะห์อยู่ตลอดเวลา [1]

หลักความคิดของนักลงทุนสายนี้

ด้วยความที่ต้องคอยดู และวิเคราะห์อยู่ตลอด นักลงทุนกลุ่มนี้จึงคอยสังเกตพวกกราฟ เทรนด์ และปริมาณการซื้อขาย พฤติกรรมราคาของหุ้น ซึ่งในการวิเคราะห์แต่ละครั้งก็จะมีความเชื่ออยู่หลายปัจจัย

  • หุ้นที่วิเคราะห์นั้นจะต้องมีกระแสและมี Volume การซื้อขายประกอบด้วย
  • ราคาที่ปรากฏได้อาจสะท้อนปัจจัยทุกอย่างทั้งหมดแล้ว
  • จิตใจจะต้องเข้มแข็ง มีวินัยต่อสัญญาณการซื้อขาย สัญญาณบอกซื้อก็ต้องซื้อ ขายก็ต้องขาย
  • เชื่อว่าราคาหุ้นขึ้นลงเป็นรอบๆ จึงเน้นเก็งกำไร และซื้อขายในระยะสั้น

ที่มา: เทคนิคลงทุน 3 แบบ 3 สไตล์ [2]

นักลงทุนสายนี้เน้นลงทุนอะไรบ้าง?

  • ลงทุนใน สินทรัพย์ลงทุน ตัวหุ้นระยะสั้นๆ และระยะกลางๆ
  • เน้นดูปริมาณการซื้อ-ขายหุ้น เพื่อประกอบการตัดสินใจ ว่ามีคนกำลังสนใจซื้อ อยู่เท่าไร
  • ลงทุนในสินทรัพย์ทุกอย่างโดยไม่สนราคา หรือบริษัทนั้นจะขาดทุนหรือกำไร เพียงดูแนวโน้มของกำลังซื้อก่อนเวลาเท่านั้น
  • เน้นลงทุนในตัวที่สามารถดู และวิเคราะห์กราฟได้เป็นหลัก เพราะแต่ละสินทรัพย์อาจมีความผันผวนไม่เหมือนกัน

เทคนิคการลงทุน สายปัจจัยพื้นฐาน Fundamental

ในสายนี้จะเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างตรงข้ามกับแบบแรก โดยสายเน้นการซื้อหุ้นตัวที่เชื่อว่าจะเติบโตได้ในระยะยาว หรือสั้นก็ได้ สายนี้จึงอยู่กับความเชื่อมากกว่า และเน้นมองไปในภาพรวม มีความใจเย็นกว่าแบบแรกมาก ซึ่งจะมีสองแบบแยกย่อยและอาจเคยได้ยินมาบ้างแล้ว อย่างนักลงทุน VI กับ GI 

ข้อควรรู้เกี่ยวกับหลักความคิด เทคนิคการลงทุน แบบนี้

  • ศึกษาข้อมูลปัจจัยพื้นฐานของหุ้นตัวที่สนใจ ความได้เปรียบในตลาด แนวโน้มความต้องการในอนาคต และอาจต้องดูความสามารถของผู้บริหารด้วย
  • ติดตามฐานะทางการเงิน เพื่อดูว่าหุ้นที่ลงทุน ทำผลงานเป็นอย่างไรบ้าง รายได้ลด กำไรลด รวมไปถึงปันผล ซึ่งจะเป็นการดูว่าควรจะขายหุ้นตัวนี้ออกไปหรือไม่ จากการเปลี่ยนแปลงต่างๆ 
  • เมื่อถึงจุดที่สมควรขายหุ้นก็ควรขาย โดยจะมีหลักการขายอยู่ 3 ข้อหลักๆ คือ เมื่อราคาหุ้นแพงเกินมูลค่าที่แท้จริง ขายเมื่อปัจจัยพื้นฐานมีการเปลี่ยนแปลง และขายหรือหยุดซื้อเพิ่มเมื่อเจอหุ้นที่มีโอกาสเติบโตสูงกว่า

ที่มา: เทคนิคลงทุน 3 แบบ 3 สไตล์ [2]

Fundamental เน้นลงทุนที่อะไรบ้าง?

นักลงทุนสายนี้ จะเป็นการซื้อหุ้นที่เปรียบเป็นการซื้อกิจการ เชื่อว่าหุ้นตัวที่ซื้อจะเติบโตได้ในอนาคต หรือไม่ก็เป็นหุ้นที่จังเป็นที่ต้องการของมนุษย์ต่อไปอีกยาวนาน ซึ่งหุ้นที่ซื้อก็อาจจะมีการซื้อแบบ lumpsum และแบ่งแบบ DCA ด้วยก็ได้

  • หุ้นที่มีพื้นฐานดี อย่างหุ้นที่สามารถจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ หุ้นที่มีกำไรอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นพวกบริษัทมือถือยอดนิยม หรือเครื่องดื่มที่มนุษย์ขาดไปไม่ได้ ทำนองนี้
  • หุ้นที่มี Growth story ค่อนข้างชัดเจน อย่างเช่นหุ้นตัวที่มีแนวโน้มจะขยายสาขามากขึ้น หรือที่กำลังจะมีแฟรนไชส์ อย่างธุรกิจอาหาร ธุรกิจแบบ 7-11 หรือแบรนด์ใหม่ๆ ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง
  • อาจลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ด้วยที่คาดว่าจะมีการเติบโตในระยะยาว อาจจะเป็นอสังหา หรือบิตคอยน์ในอีก 8-16 ปี

ที่มา: นักลงทุนสาย Fundamental เลือกหุ้นจากอะไรบ้าง [3]

สรุป เทคนิคการลงทุน การลงทุนในสไตล์ที่ใช่ของเรา

เทคนิคการลงทุน

เลือกการลงทุนที่ใช่ผ่าน ทั้งสองแบบนี้ที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเป็นการพูดถึงหลักการคิดของแต่ละสไตล์ หรือสินทรัพย์ที่นักลงทุนสองกลุ่มมักเลือกลงทุน ซึ่งหลังจากอ่านแล้วก็สามารถนำไปปรับกับการลงทุนได้เลย

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง