ไขข้อสงสัยธุรกิจ B2B คืออะไร ต่างกับ B2C อย่างไรบ้าง

B2B

B2B พร้อมตอบคำถาม ที่หลายคนต่างสงสัยที่ว่า ธุรกิจแบบ บีทูบี คืออะไรต่างจาก รูปแบบอื่นที่ตรงไหน มีความสำคัญ และมีความน่าสนใจอย่างไร วันนี้เราจะพาทุกท่าน ไปทำความรู้จักกับ ธุรกิจประเภทนี้พร้อมกัน

B2B ธุรกิจประเภทนี้คืออะไร

B2B

B2B มีชื่อเต็มว่า Business to Business ซึ่งหมายถึง การซื้อขายกัน ระหว่างผู้ประกอบการ ด้วยกันเอง เพื่อเป็นตัวเชื่อมต่อ ให้ตัวธุรกิจอื่น ๆ เดินต่อไปได้ จึงมีความแตกต่าง จากการตลาดอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง เพราะธุรกิจรูปแบบนี้

จะไม่มีลูกค้าหรือผู้บริโภค มาเกี่ยวข้อง เพราะจะเป็นการ แลกเปลี่ยนกัน ระหว่างองค์กรกับองค์กร เพียงเท่านั้น เช่น โรงงานผลิตเสื้อผ้า ก็ต้องทำการแปรรูป แล้วส่งต่อให้กับร้านขายซื้อผ้านั่นเอง

ธุรกิจรูปแบบ B2B มีความสำคัญอย่างไร

B2B มีความสำคัญอย่างมาก ในการพัฒนา และดำเนินไป ได้อย่างต่อเนื่อง เพราะในทุกการทำธุรกิจ จำเป็นจะต้องอาศัย การบริการหรือสินค้าอื่น ในการทำงาน เช่นหากท่าน มีโรงงานทำน้ำตาล ท่านก็ต้องอาศัย ชาวไร่ที่มีการส่งออก วัตดุดิบอย่างอ้อย เพื่อนำมาแปรรูป แล้วส่งออก ให้กับลูกค้าของตน เป็นต้น

ความต่างของ B2B และ B2C

ประการแรกคือกลุ่มเป้าหมาย บีทูบี จะมีกลุ่มเป้าหมาย ก็คือผู้ที่ทำธุรกิจด้วยกัน ส่วน บีทูซี จะมุ่งตรงไปยังผู้บริโภค เช่น ธุรกิจบีทูบีที่ขายสินค้า เกี่ยวกับน้ำปลา เป้าหมายของกลุ่มนี้ก็คือ ร้านอาหาร ร้านขายของ ห้างต่าง ๆ ส่วนแบบบีทูซี ก็อาจจะเป็นการบริการ หรือนำเสนอเกี่ยวกับ อาหารพุ่งเป้าไปที่กลุ่มแม่บ้าน หรือ บุคคลที่ชื่นชอบ การรับประทานอาหาร ที่มีส่วนผสมของน้ำปลา เป็นต้น

ประการที่สอง คือ เหตุผลในการตัดสินใจ อีกหนึ่งส่วนที่ แตกต่างระหว่าง บีทูบี และ บีทูซี เนื่องจากรูปแบบ บีทูบี ในการตัดสินใจซื้อ จะขึ้นอยู่กับ ผู้มีอำนาจในองค์กร เพราะจะต้องคำนึง ถึงเหตุผลว่าควรใช้บริการ หรือตัวสินค้า หรือไม่

ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา ในการตัดสินใจ และมีการศึกษาสินค้า หรือบริการ ที่นำเสนอมา เพิ่มเติมอย่างละเอียดรอบคอบ ก่อนซื้อ ในส่วนของ บีทูซี การตัดสินใจเลือกซื้อ จะขึ้นอยู่กับ ความชอบ ความสนใจ และอารมณ์ ของแต่ละบุคคล โดยจะเน้น ไปที่การดึงดูด ความสนใจ โน้มน้าวใจ ในการซื้อ หรือเชิญชวน ให้เกิดความต้องการซื้อ

ประการที่สาม คือ ส่วนของเนื้อหาหรือ Content ในด้านของ บีทูซีต้องสร้าง เนื้อหาที่น่าสนใจ มีความหลากหลาย เพิ่มช่องทางการรับรู้ ให้กับสินค้า หรือแบรนด์ของตัวเอง รวมถึงการสร้าง การมีส่วนร่วมของผู้บริโภค เพื่อให้เกิดความชื่นชอบในสินค้า แต่ในส่วนของ บีทูบี นั้นต้องมีเนื้อหาที่ชัดเจน น่าเชื่อถือ รายละเอียด ครอบคลุมและครบถ้วน เพื่อให้เกิดความไว้วางใจ ในการเลือกใช้บริการ

ประการที่สี่ Costs หรือค่าใช้จ่าย อีกหนึ่งข้อเปรียบเทียบที่เกิดขึ้นระหว่าง บีทูบี และ บีทูซี ในส่วนของ บีทูซี จะเป็นการปิดการขาย ที่จะเกิดขึ้น จากการตัดสินใจ จากกลุ่มเป้าหมาย แบบรายคน ซึ่งใช้ระยะเวลา ที่รวดเร็วในการทำการตลาด ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า

ส่วนของ Business to Business จะมีระยะเวลา ที่ใช้ในการเพิ่มความน่าเชื่อสูง และพ่วงมาด้วยปัจจัยหลายอย่าง จึงทำให้ค่าใช้จ่ายนั้น เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

ประการที่ห้า คือ Return On Investment หรือ ผลตอบแทน การทำแบบ Business to Business นั้นเป็นการนำเสนอสินค้า ต่อองค์กรหรือธุรกิจ จึงส่งผลให้กำไร ที่ได้รับมีความชัดเจน ซึ่งต่างจากตัว Business to Customer ที่เน้นไปที่ความพึงพอใจของลูกค้าเสียมากกว่า [1]

สรุป การทำธุรกิจแบบ B2B

การทำธุรกิจรูปแบบ B2B จะมีเป้าหมายที่ชัดเจน คือต้ององค์หรือ บริษัทด้วยกันเอง ซึ่งจะต่างกับแบบ B2C ที่เน้นไปที่ กลุ่มเป้าหมาย อย่างผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งข้อดีของการทำธุรกิจแบบ Business to Business

จะให้ผลกำไรตอบแทน ที่สูงและชัดเจน แม้ต้องแลกมา กับการใช้ระยะเวลา พอสมควรในการสร้างความมั่นคง และน่าเชื่อถือต่อผู้ร่วมทำทุน แต่รูปแบบธุรกิจนี้ ก็ได้รับความสนใจอย่างยิ่ง เพราะน่าสนใจและ สามารถต่อยอดได้ไกล ทั้งยังกว้างกว่า นอกจากนี้ ยังสามารถสานความสัมพันธ์ ระหว่างการทำธุรกิจ ที่ยืนยาวได้ดีอีกด้วย

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง