เอสเซกิโบ ณ บริเวณชายแดน ติดกับแม่น้ำทางตะวันตก ยานหุ้มเกราะหลายคัน รถถัง ทหารราบ และเฮลิคอปเตอร์ เข้าตรึงกำลัง เคลียร์พื้นที่ป่าบางส่วน พร้อมสร้างถนนเพื่อตัดผ่านจาก เวเนซุเอลา เข้าไปสู่พื้นที่เอสเซกิโบ พื้นที่ของประเทศ กายอานา ที่กำลังเป็นพื้นที่พิพาทในขณะนี้ เกิดอะไรขึ้นกับสถานการณ์ที่นี่กันแน่
เอสเซกิโบ เป็นพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในประเทศ กายอานา ทวีปอเมริกาใต้ ทางตะวันตกถัดจากแม่น้ำเอสเซกิโบ พื้นที่แห่งนี้ตั้งตามชื่อของแม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่าน มีพื้นที่ประมาณ 159,500 ตารางกิโลเมตร มีประชากรอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ประมาณ 125,000 คน [1]
พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยป่าฝน และทุ่งหญ้าสะวันนา มีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย อย่างเช่น ทรัพยากรป่าไม้ น้ำมัน เหมืองเพชร และเหมืองทองคำ ทางชายฝั่งทะเลในเขตของ เอสเซกิโบ ก็เต็มไปด้วยทรัพยากรน้ำมันมากมายเช่นเดียวกัน
เมื่อเทียบกับพื้นที่ใกล้เคียงแล้ว เอสเซกิโบ เต็มไปด้วยทรัพยากรที่มากยิ่งกว่า ที่ยังไม่ถูกนำมาใช้ ถึงปัจจุบัน จะมีการลักลอบทำเหมืองอย่างผิดกฎหมาย แต่ทรัพยากรเหล่านั้นก็มีเหลือมากเพียงพอ หากถูกนำมาใช้ จะทำให้ประเทศหนึ่งร่ำรวยมั่งคั่งขึ้นมาได้
ในช่วงศตวรรษที่ 16-18 นั้น เอสเซกิโบ เคยเป็นพื้นที่จากการถูกล่าอาณานิคมของสเปน รวมถึงพื้นที่ในประเทศเวเนซุเอลาด้วย ต่อมาในศตวรรษที่ 18 เอสเซกิโบและพื้นที่ทางฝั่งขวาคือประเทศกายอานา กลายมาเป็นพื้นที่ทางอาณานิคมของอังกฤษ มีชื่อเรียกว่า บริทิชกายอานา จนกระทั่งในปี ค.ศ.1966 พื้นที่นี้ทั้งหมดก็ได้รับอธิปไตย [2] กลายมาเป็นประเทศกายอานาในที่สุด
แม้ว่าเอสเซกิโบจะกลายเป็นพื้นที่ของ ประเทศกายอานาไปแล้ว แต่เวเนซุเอลาก็ได้อ้างอ้างสิทธิ์ ในการเป็นเจ้าของพื้นที่เอสเซกิโบ จากประวัติศาสตร์ในอดีต ที่เคยเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของเวเนซุเอลา ก่อนที่อังกฤษจะมาครอบครองพื้นที่ตรงนี้ แล้วให้แยกตัวเป็นกายอานาในภายหลัง
เวเนซุเอลาเพิ่มกำลังทหาร และต้องการเข้ายึดพื้นที่เอสเซกิโบ ทางกายอานาได้ยื่นคำร้องต่อศาลโลก จากการถูกรุกรานของเพื่อนบ้าน ถึงศาลจะมีคำสั่งมิให้เวเนซุเอลาทำการรุกราน หรือมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ในการปกครอง แต่ก็ดูเหมือนเรื่องราวข้อพิพาทนี้จะยังไม่สามารถยุติลงได้
ในตอนนี้เวเนซุเอลา กลับเร่งรัด และพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อเข้าครอบครองเอสเซกิโบ ทั้งๆที่ในอดีตก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับพื้นที่ตรงนี้ เทียบเท่ากับในปัจจุบันนัก โดยเหตุผลที่เวเนซุเอลาต้องการเอสเซกิโบมากขนาดนี้ เนื่องด้วยเหตุผลต่อไปนี้
การแย่งชิง เอสเซกิโบ จนเกิดเป็นพื้นที่พิพาท ดูเหมือนจะยิ่งร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ ผลประโยชน์ไม่เคยเข้าใครออกใคร เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเหตุการณ์นี้ จะไม่บานปลายไปถึงสงคราม ดังเช่น รัสเซีย-ยูเครน หรืออิสราเอล-ฮามาส ที่กลายเป็นการคร่าชีวิตผู้คนมากมาย สร้างความเสียหายอย่างไม่รู้จบ ในอนาคตจะเป็นเช่นไรต่อนั้น เราคงต้องรอติดตามกันต่อไป