เหรียญ เวิร์มโฮล (wormhole) โทเค็นอันเป็น เป็นโปรโตคอลของเชนที่เป็นคู่แข่งของอีเธอเรียมอย่าง Solana ซึ่งเป็นเหรียญที่โดดเด่นด้านความเร็ว โดย เวิร์มโฮล ก็เป็น เหรียญ สมาร์ตคอนแทกต์ ที่เรียกได้ว่าทำงานน้อยที่สุด และได้รับความสนใจมากขึ้นในวงการ NFT และ DeFi จากมีจุดเด่นหลักๆ ที่ทำงานไม่หนัก ทั้งเร็ว และถูกกว่าเชนอีเธอเรียม 2.0 ในปัจจุบันนั่นเอง
เวิร์มโฮลนับเป็นแพลตฟอร์มที่ทำเกี่ยวกับการสื่อสารข้ามเชน โดยตัวโทเค็นมีการเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมานี้เอง แต่ทางด้านเครือข่ายยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเปิดตัวเมื่อไหร่ โดยทีมไหน ซึ่งโปรเจกต์นี้รันอยู่บนโซลาน่า ซึ่งมีจำนวนเหรียญกว่า 617.3 ล้านโทเค็น และมีการแจกจ่ายให้กับผู้ใช้ผ่านโปรโตคอล
กระแสหลังเพิ่งเปิดตัวได้ไม่กี่เดือน แต่ก็ได้เปิดให้ซื้อขายในกระดานเทรดระดับโลกอย่าง Binance แล้ว โดยปกติแล้ว นักลงทุนในคริปโต มักใช้แพลตฟอร์มหรือเครือข่ายที่หลากหลายทำให้นักพัฒนาหลากกลุ่มรวมถึงเวิร์มโฮลเอง จึงได้สร้างนวัตกรรม Bridge นี้ขึ้นมา เพื่อเป็นเหมือนสะพานเชื่อมโยงให้ผู้ใช้งานสามารถโอนเหรียญจากเครือข่ายหนึ่งไปยังอีกเครือข่ายหนึ่งได้ง่ายขึ้นนั่นเอง [1]
ในการทำงานของเครือข่ายนี้ก็ตามชื่อเลย โดยจะเป็นดั่งรูหนอนในการเคลื่อนย้ายเหรียญไปมาระหว่างบล็อกเชนต่างๆ ให้อยู่เหนือกาลเวลาโดยไม่ต้องผ่านกระดานซื้อขาย หรือบรรดาบุคคลที่สามมาจัดการให้ ซึ่งเป็นการนำเสนอ 2 หัวใจสำคัญของเทคโนโลยีสะพานเชื่อมเชนอย่างความสามารถในการถ่ายโอน และการทำงานร่วมกันหลายเครือข่าย
ที่มา: Wormhole คู่แข่ง No.1 ของ LayerZero [2]
ในสิ่งที่ทำให้เครือข่ายนี้ ต่างออกไปจากเชนอื่นๆ ก็คงจะไม่พ้นในเรื่องของการเป็น สะพานเชื่อมต่อให้ระหว่างเชนหลายๆ เชน และยังเป็นตัวส่งต่อเหรียญต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วราวกับว่า วาร์ปไปมาเหนือกาลเวลาได้ แถมยังประหยัดค่าธรรมเนียมมากกว่าเชนอื่นๆ ต่อครั้งในการใช้งานอีกด้วย ซึ่งเชนนี้ในเรื่องอื่น รวมถึงนวัตกรรมที่ทำงานรวมกันก็ยังมีรายละเอียดน่าสนใจดังนี้
การมุ่งมั่นที่จะปฏิวัติวงการ DeFi จากการเปิดใช้งานระบบการทำงานที่มีความราบรื่นระหว่างระบบกระจายอำนาจทั้งหลาย มันจึงทำให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสกับโปรโตคอล DeFi ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยการแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์เดิมๆ ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถโอนสินทรัพย์อย่างเหรียญ ERC20 จากเชนอีเธอเรียม ไปยังบล็อกเชนอื่นได้อย่างรวดเร็ว และถูกกว่ามากๆ
อีกจุดเด่น หรือฟีเจอร์ที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับนวัตกรรมใหม่นี้ โดยข้อได้เปรียบที่ชัดเจนมาก ก็คือการซื้อขายเกี่ยวกับ NFT ต่างๆ ซึ่งมันจะทำให้ผู้ใช้สามารถย้ายสินทรัพย์ NFT ไปมาได้ดั่งใจนึกระหว่างบล็อกเชนหลายๆ เชนแบบไร้อุปสรรคทางเทคนิค จากเทคโนโลยีที่ระบุไว้ข้างต้นอย่างการ Attest
นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้พัฒนา DApps ต่างๆ สามารถเข้าถึงการสร้างสรรค์ ได้อย่างง่ายดาย ผ่านการใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติของเลเยอร์โปรโตคอลที่แตกต่างกัน โดยนักพัฒนาสามารถใช้สินทรัพย์เพิ่มเติมได้ด้วยการจ่ายค่าธรรมเนียมที่ต่ำ แต่มีความปลอดภัยสูงจากบล็อกเชนเลเยอร์ 1 ได้ตามความต้องการ
ที่มา: โปรโตคอล Wormholes คืออะไร? ทำไมสิ่งนี้จะทำให้การโอนคริปโต Multi-chain เกิดขึ้นจริงได้ [3]
ในเรื่องของราคา โทเค็น W นี้ก็มีราคาที่ค่อนข้างน่าสนใจสำหรับเหรียญกลุ่ม สมาร์ตคอนแทกต์ ซึ่งเป็นราคาที่เข้าถึงง่าย ใช้ในการเข้าถึงค่า Gas ได้สะดวกขึ้น โดยราคาต่อเหรียญ ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2024 หรือวันที่เขียนบทความนี้ก็อยู่ที่ราวๆ 0.259 ดอลลาร์ หรือประมาณ 8.78 บาทต่อ 1 เหรียญ และในด้านมูลค่าตลาดก็ได้รับความนิยม ซึ่งอยู่ในอันดับ 99 ของโลกทีเดียว ด้วยมูลค่าตลาดรวมดังนี้
เข้าไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับราคาเพิ่มเติมที่ coinmarketcap
แม้ว่าในด้านของการใช้งาน เวิร์มโฮลจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่สะดวกในการเคลื่อนย้ายโทเค็นระหว่างบล็อกเชนได้ดี แต่ในด้านความปลอดภัยมันก็ไม่ได้ปราศจากความเสี่ยง เนื่องจากแฮ็กเกอร์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากโปรโตคอลนี้ได้ด้วยการส่งเงินจากเครือข่ายหนึ่งไปยังอีกเครือข่ายหนึ่ง และสร้างรายการธุรกรรมใหม่ขึ้นทันทีเพื่อพยายาม เพิ่มรายการทรัพย์สินเป็นสองเท่า
ซึ่งการโจมตีนี้ สามารถทำได้ และเกิดขึ้นไปแล้วเมื่อปี 2022 ซึ่งส่งผลให้ Wrapped Ether ถูกขโมยไปกว่า 120,000 โทเค็น ซึ่งก็มีการปิดช่องโหว่ และระบุว่าวิธีการนี้เป็นภัยคุกคามที่สำคัญ ซึ่งมาตรการตอบโต้ที่มาปิดช่องโหว่นี้ก็คือการล็อกเวลาไว้ และใช้ช่องทางการสื่อสารหลายสายเชนเพื่อช่วยยืนยันความถูกต้องอีกแรง [3]
อย่างที่ระบบไปว่า ในปี 2022 ได้มีการโจมตีที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ DeFi โดยเป็นการโจมตีที่ไม่ทันได้คาดคิดจากช่องโหว่งในขั้นตอนการสร้างธุรกรรม โดยทาง CertiK บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์คาดว่ามีแฮ็กเกอร์มือดีใช้วิธีนี้ทำกำไรอย่างน้อย 251 ล้านดอลลาร์ ซึ่งก็มีการป้องกันไว้แล้วในเวลาต่อมา
ที่มา: อธิบาย Wormhole Bridge ถูกแฮ็ก Bridge ยอดนิยมของ Solana สูญเงินกว่าหมื่นล้านบาท แฮ็กเกอร์ใช้ช่องโหว่ ขโมย ETH 1.2 แสนเหรียญ [1]
โทเค็นของโปรโตคอลที่ใช้พัฒนาระบบการโอนย้ายโทเค็นต่างๆ ได้แบบ Multi-chain ซึ่งได้รับความสนใจมากขึ้นในวงการ NFT และ DeFi โดยมีข้อดีจากความเร็วในการใช้งานบนเชน โซลาน่า และมีค่าธรรมเนียมที่ถูกมากๆ ซึ่งเคยถูกโจมตีครั้งใหญ่ และปัจจุบันก็ได้ปิดช่องโหว่นั้นไปแล้ว