เหรียญ เฟทช์ โทเคนที่พัฒนาเป็นแล็บปัญญาประดิษฐ์ที่สำคัญ

เหรียญ เฟทช์

เหรียญ เฟทช์  (Fetch) หรือชื่อเต็ม Artificial Superintelligence Alliance เป็นโทเคนในกลุ่ม เหรียญกลุ่ม DeFi ที่มุ่งหวังที่จะให้การเข้าถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ได้ในวงกว้าง และเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น โดยใช้เครือข่ายแบบ Permissionless ในการเชื่อมต่อและเข้าถึงชุดข้อมูลที่ปลอดภัยได้ และยังพัฒนาระบบเศรษฐกิจแบบอัตโนมัติที่ใช้เทคโนโลยี Agent-based AI ทำงาน

ประวัติ Fetch เชนที่พัฒนาบล็อกเชนกันระบบ AI

ในเรื่องของประวัติของเครือข่ายนี้ที่แล็บปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2017 จนได้เปิดตัวในปี 2019 ด้วยวัตถุประสงค์ให้ผู้ใช้งาน สามารถเรียกใช้ หรือเข้าถึงเทคโนโลยี AI ได้ด้วยเครือข่ายแบบ permissionless ที่ทั้งง่าย และปลอดภัยสูง แถมยังเป็นเครือข่ายที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จากเครือข่ายข้อมูล ให้สามารถใช้งานในส่วนต่างๆ อย่างแอปการเงินแบบ DeFi ต่างๆ

โมเดลของแพลตฟอร์ม Fetch.ai ก็ได้รับการสนับสนุนจากโทเค็นยูทิลิตี้อย่าง FET ใช้ในการค้นหา สร้าง ปรับใช้ และใช้ฝึกหรือเทรนเอไอได้ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในสัญญาอัจฉริยะและค่าธรรมเนียมในการใช้งานบนออราเคิ่ลแพลตฟอร์ม โดยมีผู้ก่อตั้งก็คือ Toby Simpson, Humayun Sheikh และ Thomas Hain [1]

Feature หลักของ เหรียญ เฟทช์  ที่ได้รับความสนใจ

ในแพลตฟอร์มของ Fetch.AI ก็มีการตั้งเป้าที่จะให้บริการเครื่องมือสำหรับผู้พัฒนา ซึ่งก็มีการเพิ่มเพื่อ และการพัฒนาด้วยการจัดหา machine-to-machine ecosystem แบบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นโมเดลที่อาศัยฐานข้อมูลขนาดใหญ่ อย่างการเพิ่มประสิทธิภาพบริการเทรดแบบ decentralized เครือข่ายการขนส่ง และการท่องเที่ยว พร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ดังนี้

  • AI Agents เป็นตัวช่วยที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ด้วยลอจิกต่างๆ ให้สามารถมีการทำงานที่กำหนดเองได้จากผู้พัฒนา ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งาน AI หรือการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่จากการรวม AI หลายๆ ตัวเข้าด้วยกัน ทั้งหมดนี้สามารถทำได้แบบ no-code ผ่าน Fetch.AI
  • AI Engine เป็นฟีเจอร์หลักที่ใช้ประโยชน์ในการจำลองภาษาโปรแกรมขนาดใหญ่ได้ ซึ่งเป็นการทำให้ผู้ใช้ และทางผู้พัฒนาสามารถเชื่อมต่อกับบริการต่างๆ ที่ใช้ AI Agents ได้
  • Agent IoT Gateway หรือฟีเจอร์ที่เหล่านักพัฒนารู้จักกันในชื่อ Mailroom Service โดยเป็นฟีเจอร์ที่ให้ AI Agents ออนไลน์ได้ตลอดเวลา พร้อมสามารถดำเนินการแยกกันได้อย่างอิสระ
  • Fetch Wallet กระเป๋าเก็บคริปโตจากเชนของตนเอง ที่สามารถใช้ติดต่อกับเครือข่ายของเฟทช์  และ ledger อื่นๆ สร้างโดยใช้ Cosmos-SDK และรองรับโปรโตคอล Inter-Blockchain Communication ที่มีการแยกตัว หรือ forked มาจาก Keplr wallet

ที่มา: Fetch.AI (FET) คืออะไร? แพลตฟอร์มบริการ AI อัจฉริยะ [2]

Fetch ทำงานอย่างไร และมีประโยชน์อะไรบ้าง 

โทเคนที่มีการนำเสนอโซลูชั่น AI ที่หลากหลายสำหรับภาคธุรกิจต่างๆ โดยดำเนินงานผ่านเทคโนโลยีเฉพาะตัวที่มีองค์ประกอบที่แตกต่างกัน 4 ประการ ซึ่งในการทำงานก็จะเป็นการเน้นเทคโนโลยีที่กระจายอำนาจ เสริมเรื่องการใช้งาน และพัฒนาความหลากหลายของเหรียญที่ผลักดันแอป DeFi

การทำงานเพิ่มเติม

  • การเป็นเชนกระจายอำนาจ: เฟทช์ ทำงานอยู่บนเครือข่ายที่มีการแลกเปลี่ยนแบบ peer-to-peer ซึ่งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาตัวกลางมาคอยควบคุมแพลตฟอร์ม สิ่งนี้ยังทำให้แพลตฟอร์มนี้มีความปลอดภัย โปร่งใส และยืดหยุ่น
  • ใช้งานง่าย: เฟทช์ เป็นการนำเสนอเครื่องมือ และบริการต่างที่ช่วยให้ใช้งานได้ง่าย ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชั่น AI  ออกมาได้โดยไม่ต้องมีความรู้ด้าน AI มากก็ได้
  • หลากหลาย: การทำงานที่มีการรองรับแอปพลิเคชั่น AI ได้หลากหลายประเภทอย่างการรองรับ แอปตลาดการเงินแบบกระจายอำนาจหลายตัว แพลตฟอร์มการจ้างงานอัจฉริยะ และระบบจัดการพลังงานต่างๆ 

ประโยชน์

  • การจัดการด้านอุปทาน: ผู้ใช้งานสามารถติดตามสินค้า ตรวจสอบ provenance และจัดการสินค้าคงคลังได้ตลอดเวลา
  • ด้านการเงิน: ในเครือข่ายนี้ จะมีการตรวจจับการฉ้อโกง การวิเคราะห์ความเสี่ยง และจัดการสินเชื่อ
  • ด้านพลังงาน: เชนนี้มีการเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้พลังงาน และซื้อขายพลังงานในแบบ peer-to-peer ได้อีกด้วย 

ที่มา: เหรียญ Fetch.ai (FET) คืออะไร ทำไมราคาถึงขึ้นแรง? [3]

ราคา FET ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นปี 2024 

ในเรื่องของราคาเหรียญตัวนี้ ก็เคยพุ่งขึ้นไปสูงสุดหรือ All time high เพียง 3.47 ดอลลาร์ในเดือนกันยายนปี 2021 ซึ่งปัจจุบัน ณ วันที่เขียนบทความหรือ วันที่ 12 สิงหาคม 2024 ราคาก็อยู่ที่ 0.8498 ดอลลาร์ หรือประมาณ 29.96 บาทต่อเหรียญเท่านั้น แต่ในด้านของความนิยม ท่ามกลางการมาของเทรนด์ AI เหรียญนี้ก็มูลค่าตลาดที่สูงเป็นอันดับ 32 ของคริปโคทั้งหมด

  • มูลค่าตามตลาดรวม: 2.15 พันล้านดอลลาร์
  • มูลค่าของตลาด 24 ชั่วโมง: 105.15 ล้านดอลลาร์ต่อวัน
  • Supply หรือจำนวนเหรียญที่หมุนเวียนในระบบ: 2.52 พันล้านโทเคน
  • Max Supply: 2.63 พันล้านโทเคน

เข้าไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับราคาเพิ่มเติมที่ coinmarketcap

ระบบ Economic ของ เหรียญ เฟทช์ และการแบ่งสัดส่วน

โดยหน้าที่ของเหรียญหรือโทเคนนี้ในส่วนของระบบ Economic token บนแพลตฟอร์มนี้ ก็ล้วนทำหน้าที่หลักๆ อยู่ 3 ประการ ซึ่งก็จะประกอบไปด้วยการเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน ซื้อขายบริการ รวมไปถึงสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ บนแพลตฟอร์มเฟทช์  สองคือแรงจูงใจ ในการรับรางวัลผ่านการ staking โดยนำเหรียญมาฝากไว้ และสุดท้ายก็คือองค์ประกอบของการมีสิทธิ์ในการโหวต ตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งโทเคนเหล่านี้ยังแบ่งสัดส่วนไปหลายส่วนด้วยกัน

  • 20%: ให้กับส่วนกลางที่เป็นกองทุนในการพัฒนาเหรียญนี้
  • 20%: ให้สำหรับทีมผู้ก่อตั้ง
  • 17.6%: สำหรับนักลงทุนจากบริษัทต่างๆ หรือรายบุคคลรอบ seed และ private
  • 15%: รางวัลการขุดหรือ Mining rewards และการ Stake
  • 10%: ที่ปรึกษาระบบนิเวศของเหรียญนี้
  • และอีกที่เหลือ 17.4%: เก็บไว้ในระบบเพื่อการปล่อยขายต่อไปในอนาคต

ที่มา: โปรเจกต์ Aptos: มาเรียนรู้เกี่ยวกับโปรเจกต์และเครือข่ายของมันกัน! [3]

การเปิดตัว Fetch Compute ที่ดันราคาพุ่งขึ้นกว่า 15%

ล่าสุดในปีนี้ Artificial Superintelligence Alliance หรือเฟทช์ ก็โชว์ฟอร์มโดดเด่นในตลาดคริปโตตั้งแต่ต้นปีเลย โดยพุ่งขึ้นถึง 17% ภายใน 24 ชั่วโมง นับเป็นจนมีราคาที่พุ่งทะลุระดับราคา 2 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปีกว่า ส่งผลให้เหรียญขึ้นแท่นสู่ Top 3 เหรียญที่ร้อนแรงที่สุดประจำวัน โดยการพุ่งทะยานครั้งนี้ ก็ทำให้ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 64 ในเดือนมีนาคม 2024 ก่อนที่อีกไม่กี่เดือนมูลค่าตลาดรวมจะพุ่งขึ้นมาอยู่ในอันดับ 32 

โดยปัจจัยหลักๆ ที่กระตุกความนิยมให้กับนักลงทุนจำนวนมากก็อาจเป็นการเปิดตัว Fetch Compute ซึ่งจุดประกายความสนใจให้กับนักลงทุนแทบจะทันที โดยได้รับเงินลงทุนมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ พร้อมการมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี GPU รุ่นล่าสุดจาก Nvidia มาใช้ในการประมวลผลการทำงานในระบบ และแพลตฟอร์มของ AI  [4]

สรุป เหรียญ เฟทช์ เชนของระบบนิเวศของปัญญาประดิษฐ์

เหรียญ เฟทช์

เหรียญที่มุ่งเน้นพัฒนาในส่วนของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่นำมาใช้งานทั่วไป และปรับใช้กับโลกการเงิน DeFi ได้อย่างอัตโนมัติ แถมยังเป็นเหรียญที่มีการเติบโตของมูลค่าตลาดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เหรียญเดียวที่สร้างความแปลกใหม่ให้วงการเอไอและบล็อกเชนให้ไม่เหมือนเดิม

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง