
เหรียญ เนียร์ (NEAR) อีกหนึ่งในเหรียญสกุลเงินดิจิทัลในกลุ่ม เหรียญ สมาร์ทคอนแทกต์ ที่ได้ชื่อว่าเป็น ETH Killer ในด้านของการใช้งานและความสามารถในการปรับขนาดให้รองรับธุรกรรมจำนวนมากได้ บทความนี้จึงเป็นการพูดถึงเหรียญนี้แบบละเอียดว่ามันมีความน่าสนใจอย่างไร ใครเป็นผู้สร้าง พร้อมโปรเจกต์ใหญ่ของเหรียญนี้
ในการก่อตั้งเหรียญนี้ก็เกิดขึ้นโดยนักพัฒนาหลายคนที่นำโดยผู้ก่อตั้งอย่าง Erik Trautman ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการโปรแกรมอย่าง Ilya Polosukin และ Alexandra Skidanov ซึ่งเป็นเหรียญที่สร้างสำเร็จ พร้อมเปิดให้ใช้งานในปี 2018 โดยต่อมาในเดือนตุลาคม 2020 โทเคนตัวนี้ก็เปิดใช้งาน mainnet อย่างเต็มรูปแบบด้วยเวลาแค่ 2 ปีนับจากเปิดตัวมา
ปัจจุบันในทีมพัฒนาของ Protocol นี้ก็มีทีมผู้พัฒนามากกว่า 70 คนได้รับความสนใจจากนักพัฒนา และนักลงทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งในการระดมทุนพัฒนาแฟลตฟอร์ม ก็สามารถรวบรวมทุนได้มากถึง 500 ล้านบาทก่อนเริ่มการพัฒนา และยังเป็นเครือข่ายหนึ่งที่เอื้อให้นักพัฒนานำไปใช้เขียน dApp ต่างๆได้โดยง่าย แถมเสียค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าบล็อกเชนอื่นๆ ด้วย [1]
อย่างที่กล่าวไปว่า Platform นี้ง่ายต่อการใช้งานของนักพัฒนาแอป ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีคุณสมบัติหลายประการที่สำคัญในการใช้งาน แถม ตอบโจทย์นักพัฒนา dApp มาก โดยเฉพาะการเป็นแพลตฟอร์มไร้ตัวกลาง (Decentralized) แบบอีเธอเรียม พร้อมด้วยระบบ Smart Contract ที่สามารถทำการเขียนแอปพลิเคชันได้ง่ายกว่า ทั้งการเข้าถึงฟีเจอร์ง่ายขึ้น ทั้งในเรื่องของการชำระเงิน จากวัตถุประสงค์ดังนี้
ที่มา: ความสำคัญของ Near Platform มีอะไรบ้าง [2]
ในส่วนของจุดเด่นแน่นอนว่าหลักๆ ก็คือการเป็นเครือข่ายที่นักพัฒนาต่างๆ ทั้งเพิ่งเริ่มต้นหรือเซียนโปรแกรมก็สามารถใช้งาน และเข้ามาสร้างโปรเจกต์ของตนได้ง่ายกว่า เชนอื่นๆ และเป็นเหรียญที่มีความเร็วในการทำธุรกรรมอีกด้วย ซึ่งในจุดเด่นอื่นๆ ของเหรียญนี้ก็ยังมีอีกไม่น้อย หัวข้อนี้จึงพาไปดูรายละเอียดของจุดเด่นอื่นๆ และขยายความเพิ่มเติมของที่กล่าวมาด้วย
ที่มา: NEAR Protocol (NEAR) คืออะไร? [3]
อีกหนึ่งเหรียญที่ยังคงอันดับของตัวเองอยู่ใน Top 20 มาตลอดตั้งแต่เปิดตัว ซึ่งก็เคยไปแตะที่ 10 อันดับแรกในช่วงที่มีการ All time high ไปอยู่ที่ 20.37 ดอลลาร์ ซึ่งในข้อมูลด้านราคาต่อเหรียญในปัจจุบัน ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2024 ก็อยู่ที่ 6.34 ดอลลาร์ หรือราว 230.21 บาทต่อเหรียญ พร้อมข้อมูลด้านมูลค่าตลาดและซัปพลายของโทเคนดังนี้
ดูรายละเอียดของเหรียญนี้เพิ่มเติมที่ coinmarketcap
การร่วมมือกับกูเกิ้ลคลาวด์ล่าสุดของเชนนี้ ได้มีการประกาศในปี 2565 เกี่ยวกับโปรเจกต์ที่น่าจับตามองอย่าง Pagoda ที่เป็นการจับมือกับทาง Google Cloud เพื่อพัฒนาโครงการสร้างพื้นฐานของแพลตฟอร์มเริ่มต้นของเนียร์ใน Web3.0 นั่นเอง เป็นการสนับสนุนทางเทคนิคของกูเกิ้ลคลาวด์ แก่ผู้รับทุนเนียร์โดยการจัดหาโครงสร้างพื้นฐานให้ผู้ให้บริการโหนด Near’s Remote Procedure Call
โดยโครงสร้างพื้นฐานของกูเกิ้ล จะช่วยให้นักพัฒนาแอปต่างๆ ที่ทำผ่านเครือข่ายของเนียร์ จะมีการใช้งานที่ง่ายขึ้นและเสถียร แถมยังเพิ่มขีดความสามารถในเรื่องของการสร้างขนาดของธุรกรรมทั้งหมด ให้รวดเร็ว ด้วยการรองรับปริมาณมากกว่าที่ผ่านมา จึงเป็นการเพิ่มจุดแข็งให้ Protocol นี้ และดึงดูดนักพัฒนาเข้ามาสร้างแอปพลิเคชันมากขึ้นไปอีก [2]
ในปี 2022 ที่เหล่าคริปโตมีราคาร่วงลงอย่างหนัก จากการปรับตัวลงของบิตคอยน์ โดยท่ามกลางตลาดที่ร่วงลงอย่างหนักตลอดสัปดาห์ แต่กลับมีไม่กี่เหรียญพุ่งสวนทางตลาด โดยเฉพาะกับเนียร์ เพิ่มขึ้นประมาณ 8% ซึ่งการเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นนี้ ก็มาจากปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นซึ่งทำให้โทเคนของเครือข่ายนี้ มีความนิยมมากขึ้นเป็นประวัติการณ์
ที่มา: เหตุผลที่เหรียญเนียร์ปรับตัวสูงขึ้น [4]
เหรียญที่เปิดตัวมาด้วยการเป็นคู่แข่งตัวเป้งของอีเธอเรียม ซึ่งตั้งแต่ช่วงที่เปิดตัวมาในปี 2018 มาถึงการเปิดใช้งาน mainnet ในปี 2020 กระทั่ง 2022 เหรียญนี้ก็ได้รับความสนใจมาโดยตลอด ด้วยความโดดเด่นในด้านของการใช้งานที่ง่าย พร้อมคุณสมบัติของเชนรุ่นใหม่อย่างการขยายขนาดได้ดี จึงมีการทำธุรกรรมที่ไวมากเหมือนเหรียญเจน 3 ตัวอื่นๆ นั่นเอง