เหรียญ เซเลสเทีย (Celestia) บล็อกเชนตัวแรกของกลุ่ม เหรียญ สมาร์ทคอนแทกต์ ที่สามารถรองรับเครือข่ายผู้ใช้ได้จำนวนมาก แถมยังมีความปลอดภัย และง่ายต่อการสร้างเชนขึ้นมาได้ ทำให้ใครก็สามารถสร้าง หรือจะพัฒนาบล็อกเชนของตัวเองได้ในราคาที่ไม่แพง ซึ่งบทความนี้จึงเป็นการพูดถึงความสามารถของเชนนี้ และความน่าสนใจของเทคโนโลยีโมดูลาร์บล็อกเชนตัวแรกนี้
โดยผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของแล็บนี้ในปัจจุบันคือ Mustafa Al-Bassam ซึ่งมีการเปิดตัว และแจกเหรียญเป็นรูปแบบของแอร์ดรอป จำนวน 60 ล้านโทเคน คิดเป็น 6% ของอุปทานของเชนนี้ ซึ่งก็มอบให้กับ นักพัฒนา นักวิจัย ผู้เดิมพัน รวมไปถึงผู้ Stake ที่มีการติดตามเหรียญนี้ตลอดเวลาในช่วงนั้น
สำหรับผู้ก่อตั้งอย่าง Mustafa Al-Bassam ก็เคยเป็นนักวิจัยที่ Chainspace ของทางเฟซบุ๊ก และจบการศึกษาในระดับปริญญาเอกในลอนดอน สาขา Blockchain Scaling และผู้ร่วมก่อตั้งอีกคนอย่าง Ismail Khoffi ก็เคยทำงานในโครงการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมระดับอุดมศึกษา ตลอดจนในองค์กรขนาดใหญ่ พร้อมเคยเป็นวิศวกรอาวุโสที่ Tendermint และ Interchain Foundation [1]
Modular Blockchain เป็นเทคโนโลยีของเชนนี้ ที่มาจากแนวคิดการออกแบบบล็อกเชนที่สามารถแยกฟังก์ชันสำคัญๆ ซึ่งมีความต่างจากบล็อกเชนของสกุลเงินดิจิทัลในยุคแรก อย่าง Bitcoin หรือ Ethereum ที่ความสัมพันธ์ของระบบมีความเป็นลำดับและก้อนเดียวกันไม่ว่าจะเป็น ความพร้อมใช้งาน ระบบฉันทามติ และการดำเนินการ ซึ่งก็มีปัญหาตามมาดังนี้
ที่มา: Avalanche: Smart Contract Blockchain รูปแบบใหม่? [2]
โดยเครือข่ายนี้จะแก้ปัญหาการปรับขนาด โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า data availability sampling หรือที่เรียกว่า DAS จากการทำงานแบบใหม่ ที่แยกธุรกรรมออกได้เป็นชิ้นส่วนเล็กๆ และจะมีการสุ่มตัวอย่างชิ้นมาตรวจสอบ ว่าข้อมูลทั้งหมดมีอยู่หรือไม่ หากโหนดนั้นๆ สามารถตรวจสอบได้ว่าส่วนใหญ่ของชิ้นที่แยกมามีสถานะพร้อมใช้งาน สิ่งนี้จึงช่วยการันตีมั่นใจได้ว่า ข้อมูลธุรกรรมทั้งหมดนั้นมีอยู่จริง
จากการใช้เทคโนโลยี DAS ก็ทำให้โหนดต่างๆ ที่เรียกว่า light nodes ซึ่งไม่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลบล็อกเชนทั้งหมดมาได้ จึงสามารถสุ่มตัวอย่างข้อมูลบล็อกเพียงส่วนเล็กๆ ในเชนนี้ได้ เพื่อตรวจสอบว่าบล็อกนั้นๆ ได้รับการเผยแพร่แล้วหรือไม่ [3]
ในส่วนของราคาของเหรียญนี้ เคยขึ้นไปแตะสูงสุดเป็นประวัติการณ์หรือ All time high คือ 751 ต่อเหรียญเลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันราคาต่อเหรียญที่ 6.51 ดอลลาร์หรือราวๆ 236.72 บาทต่อเหรียญ ราคา ณ วันที่ 21 กรกฎาคม 2024 ซึ่งในด้านของมูลค่าเหรียญนี้ก็อยู่อันดับที่ 67 ของโลก ซึ่งในด้านรายละเอียดอื่นๆ ก็มีดังนี้
ดูรายละเอียดของเหรียญนี้เพิ่มเติมที่ coinmarketcap
ในส่วนของระบบฉันทามติหรือการตรวจสอบธุรกรรมของเครือข่ายนี้ Celestia ก็เป็นเชนที่ใช้ระบบ proof-of-stake (PoS) ในเชนหลัก ซึ่งผู้ใช้งานเหรียญนี้ก็ยังสามารถนำไปฝากค้ำไว้ เพื่อแลกกับการตรวจสอบธุรกรรมซึ่งจะเรียกว่าการ Stake โดยการเป็นผู้สเตกเหรียญ TIA ก็จะสามารถสร้างรายได้จากรางวัลจากเครือข่ายได้พร้อมกับเหรียญที่นำไปค้ำไว้ตามสัดส่วน
ในการเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรมได้รับค่าธรรมเนียมจากผู้ใช้เป็นเปอร์เซ็นต์ เพื่อเป็นแรงจูงใจในการรักษาฉันทามติเช่นเดียวกับเครือข่ายอื่นๆจากการที่ผู้ใช้สามารถช่วยรักษาเครือข่ายได้ด้วยการใช้โทเคนนี้ไว้ และรับรางวัลเป็นค่าธรรมเนียมจากการใช้งานในแพลตฟอร์ม แลกกับการตรวจสอบความถูกต้องของเซเลสเทีย [3]
ในส่วนของการระดมทุน โปรเจกต์นี้จากการเปิดให้ลงทุนในช่วงแรก ก็เคยได้รับเงินจากการระดมทุนมากกว่า 55 ล้านดอลลาร์จากกิจการชื่อดังหลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็น Coinbase, Delphi Digital, Placeholder, Jump Crypto และ Galaxy จากจุดเด่นต่างๆ ที่มีความน่าสนใจ พัฒนาจุดนั้นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก ซึ่งจุดเด่นก็มีดังนี้
ที่มา: พารู้จัก Celestia (TIA) เหรียญขวัญใจสมาคมขายหมูแห่งคริปโตประเทศไทย [4]
อีกเหรียญน้องใหม่ ที่มีการเปิดตัวมาอย่างเป็นทางการเมื่อปีก่อนหน้าหรือ 2023 นี้เอง โดยเป็นเครือข่ายที่ออกมาเพื่อช่วยแก้ปัญหา 3 ด้านที่มีมาอย่างยาวนานในบล็อกเชนแบบเก่าๆ อย่างความเร็ว การเข้าถึงแบบกระจายศูนย์ และความปลอดภัย