เหรียญ สเตล่า เครือข่ายอิสระ ที่เน้นความรวดเร็วเป็นหลัก

เหรียญ สเตล่า

เหรียญ สเตล่า (Stellar) หรือ XLM เป็นเหรียญหนึ่งที่มีเครือข่าย หรือการสร้างบล็อกเชนขึ้นมาเป็นของตนเอง โดยเป็นเหรียญในกลุ่มของ เหรียญ ส่งต่อมูลค่า เช่นเดียวกับริปเปอร์ ซึ่งเป็นตัวกลางที่กระจายอำนาจสู่บุคคลทั่วไปได้ และไม่ขึ้นตรงกับใคร หรือธนาคารใดๆ ในโลก บทความนี้จึงเป็นการนำเสนอความน่าสนใจ และจุดเด่นต่างๆ ของเหรียญนี้

Stellar คืออะไร และประวัติการก่อตั้งของ เหรียญ สเตล่า

มีอีกชื่อหนึ่งคือ XLM หรือ Lumens เหรียญที่มีการสร้างเชนของตัวเองขึ้นมา เพื่อส่งต่อมูลค่าอย่างเดียว เป็นจุดประสงค์หลัก ซึ่งเป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่อิสระ ไม่ขึ้นตรงกับใคร ผู้ที่ใช้งานเหรียญนี้จึงเปรียบเสมือนเจ้าของร่วมกันกับเครือข่าย ซึ่งเป็นการกระจายอำนาจอย่างแท้จริงแบบ เหรียญบิตคอยน์ ปัจจุบันเหรียญนี้ก็มีในระบบมากล้น มันจึงมีมูลค่าที่น้อยไม่เหมาะกับการเก็งกำไร

โดยเหรียญดังกล่าวนี้ ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี 2014 เป็นองค์กรหนึ่งที่ไม่แสวงผลกำไร Stellar Development Foundation ที่นำโดยอดีตผู้สร้างเหรียญ Ripple อย่าง Jed McCaleb โดยสร้างเหรียญมาเพื่อเป็นตัวกลางการชำระสินค้าและบริการ ระหว่างบุคคลในปัจจุบัน ซึ่งก็ทำได้อย่างรวดเร็ว พร้อมค่าธรรมเนียมหรือค่า Gas ที่ถูกมากๆ [1]

เทคโนโลยีหลัก  ในการทำงานของเหรียญนี้

สำหรับหน้าที่การทำงานของ Chain นี้ จะเป็นตัวที่ทำการตรวจสอบการโอนสกุลเงินต่างๆ แบบ Peer-to-Peer โดยก็สามารถแลกได้หลายสกุลเงินมาก หน้าที่ของเหรียญตัวนี้มันจึงเป็นตัวตรวจสอบว่า ในการแลกเปลี่ยนจะมีการสลับคู่สกุลเงินตรงหรือไม่ พร้อมทำการเปลี่ยนแปลงสกุลเงินในส่วนของผู้รับได้แบบอัตโนมัติ โดยก็จะมีเทคโนโลยีหลักๆ ดังนี้

  • Core สิ่งนี้คือ Node ทั้งหลายที่รันอยู่บนระบบ Network ของเชนนี้ โดยจะเชื่อมต่อกันระหว่าง Node ด้วยกัน ซึ่งจะทำการตรวจสอบข้อมูลได้อย่างละเอียด พร้อมทั้งมีการจัดเก็บข้อมูลธุรกรรมต่างที่กลับมาย้อนดูได้ตลอดเวลา
  • Consensus Protocol ระบบเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองที่มีอยู่ทั่วโลกแบบ Decentralized เพื่อให้แต่ละ Node สามารถอัปเดตข้อมูลได้เอง โดยจะสร้าง Ledger ใหม่ขึ้นมา ที่จะมีความแตกต่างจากระบบ Proof of Work ของบิตคอยน์ และ Proof of Stake อย่างอีเธอเรียมและเหรียญอื่นๆ แต่ของเหรียญนี้จะมีการตรวจสอบความถูกต้องบนพื้นฐานของความไว้วางใจเท่านั้น
  • Horizon API ตัวนี้คือตัวกลางระหว่าง Network กับผู้ใช้งานภายนอกที่ดึงข้อมูลเข้ามาในระบบ ทำให้ผู้ใช้งานทำได้อย่างปลอดภัย 
  • Smart Contracts ก็คือโปรแกรมการทำธุรกรรมที่หลายบล็อกเชนใช้ ที่เป็นการสร้างสัญญาแบบอัจฉริยะ ให้มีเงื่อนไขที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับกันได้ และจะทำการแลกเปลี่ยนโดยอัตโนมัติหากเงื่อนไขตรง

ที่มา: Stellar Lumens คืออะไรและแนวโน้มเหรียญ XLM ในปี 2023 เป็นอย่างไร [2]

จุดเด่น และจุดด้อยต่างๆ ของ Lumens หรือ XLM 

ในปัจจุบันนี้ ในเรื่องของ Crypto ถือว่าเป็นเรื่องใหม่อยู่ ซึ่งทำให้แพลตฟอร์มต่างๆ ที่สร้างขึ้นไม่มีอันไหนที่สมบูรณ์แบบ 100% สำหรับของเหรียญนี้หรือ Lumens เองก็ด้วย ซึ่งการทำงานก็มีจุดเด่นหลายจุดที่น่าสนใจ แต่แน่นอนที่มันยังมีจุดด้อยที่ต้องแก้ไขอีก ซึ่งหัวข้อนี้ จึงเป็นการอธิบายเกี่ยวกับ จุดเด่นและด้อยของเครือข่ายดังนี้

จุดเด่น

  • จุดเด่นคือการกระจายอำนาจขอได้แบบ Open Source ซึ่งเป็นอีกระบบที่ไม่มีใครควบคุมและเปลี่ยนแปลงระบบได้ ในเครือข่ายนี้ทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่มีการผ่านตัวกลางแต่อย่างใด
  • ในแต่ละการทำธุรกรรมของเหรียญนี้ มีการเก็บค่าแก๊ส หรือค่าธรรมเนียมที่ต่ำเป็นอย่างมาก หากเทียบกับสกุลเงินอื่น
  • อีกจุดเด่นหลักๆ คือความรวดเร็วของการทำธุรกรรม ซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้มาก จากการตรวจสอบที่เร็วมากยิ่งในการโอนเงินข้ามประเทศ ก็ใช้เวลาไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ
  • สำหรับบางสกุลเงินที่ไม่มีเหรียญคู่เทรดมากพอในการแลกเปลี่ยนบนกระดานเทรดต่างประเทศ  ซึ่งสกุลเงินนี้เองก็สามารถเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนได้เลย เพราะเป็นสกุลเงินที่มีคู่เทรดเยอะ

จุดด้อย

  • เนื่องจากความนิยมในการใช้งานของเหรียญนี้ ยังไม่เป็นที่นิยมสักเท่าไหร่ หากเทียบกับระบบอื่นๆ แถมมีมูลค่าที่น้อย โดยปริมาณความนิยมน้อย ก็ทำให้ผู้คนขาดความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมไปด้วย
  • สเตล่ามีปริมาณเหรียญที่ค่อนข้างเยอะ เหตุผลนี้จึงส่งผลทำให้ราคาของเหรียญต่ำ และไม่เหมาะกับการเกร็งกำไร และไม่คุ้มค่าหากนำไปแลกเปลี่ยนกับสกุลเงินอื่น

ที่มา: Stellar Lumens คืออะไรและแนวโน้มเหรียญ XLM ในปี 2023 เป็นอย่างไร [2]

ราคา XLM และรายละเอียดต่างๆ ที่น่าสนใจ

สำหรับราคาเหรียญนี้ ปัจจุบันก็มีราคาเพียงแค่ 0.08329 ดอลลาร์ หรือราว 3.03 บาท (ราคา ณ วันที่ 8 กรกฎาคม 2024) โดยถึงแม้จะมีความนิยมของเหรียญนี้ที่น้อย จึงมีการใช้งานที่ไม่มากพอสมควร แต่ก็ยังติดอยู่ใน Top 50 ถึงแม้ราคาจะไม่ถึง 1 ดอลลาร์ ซึ่งเหรียญนี้ก็ยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่สำคัญของเหรียญที่น่าสนใจดังนี้

  • มูลค่าตามราคาตลาด: 2.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  • ปริมาณการซื้อขายต่อวัน: 59.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  • อุปทานหมุนเวียนในระบบ: 29.19 พันล้านเหรียญ
  • Max Supply: กำหนดไว้ที่ 50  พันล้านเหรียญ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ coinmarketcap

ข้อแตกต่าง ของเหรียญส่งต่อมูลค่าอย่างสเตล่า และริปเปอร์

สำหรับเหรียญริปเปอร์ก็เป็นอีกหนึ่งสกุลเงินดิจิทัล ที่สร้างขึ้นเพื่อทำธุรกรรม เพื่อส่งต่อมูลค่าระหว่างผู้ใช้แบบเดียวกับสเตล่า แต่ความแตกต่างระหว่างสองเหรียญนี้หลักๆ ที่เห็นได้ชัดก็คือ ริปเปอร์สามารถใช้งานได้กับธนาคารกับสถาบันการเงินเป็นหลัก ส่วนสเตล่าก็จะมุ่งเป้าไปที่บุคคลทั่วไปมากกว่า และไม่ขึ้นตรงกับธนาคารไหน 

นอกจากนี้ผู้สร้างสองเหรียญนี้ยังมีผู้สร้างเป็นคนเดียวกัน เพียงแต่มีจุดประส่งในการส่งต่อมูลค่าที่ต่างกันเล็กน้อย สองเหรียญนี้จึงไม่ได้ถือว่าเป็นคู่แข่ง พวกเขาเป็นเหมือนเหรียญสองด้านที่เหมือนกัน ซึ่งเหรียญหนึ่งที่ความนิยมที่สูงจากความน่าเชื่อถือจากการมีธนาคารเข้าร่วมด้วย และเคยขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของโลกด้วย ส่วนอีกเหรียญหนึ่งก็ยังไม่มีความนิยมมากเท่าไหร่ [3]

สถานการณ์ปัจจุบัน และความเสี่ยงในการใช้งานเหรียญ

ซึ่งสถานการณ์ของเหรียญนี้ในปัจจุบัน ยังถือว่ากำลังเริ่มต้นฟื้นราคาเหรียญกลับมา โดยหลังจากการร่วมมือกับบริษัทการเงินอย่าง MoneyGram และ Flutterwave ซึ่งก็มีการพัฒนาร่วมกันอยู่ และหากพัฒนาสำเร็จ มันก็จะเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้แพลตฟอร์มนี้ให้มีความน่าเชื่อถือ และมีการใช้งานเพิ่มขึ้น เพราะเป็นเหรียญที่ดีกว่า การกระจายอำนาจมากกว่า ชำระเงินที่รวดเร็วกว่าด้วย [2]

  • โดยความเสี่ยงแรก ด้วยการที่มีการขายมากเกินไป จนราคาจาก 0.90 ดอลลาร์ ซึ่งตั้งแต่ช่วงต้นปี 2018 ที่ผ่านมาจนมาถึงปัจจุบันก็ทำให้สกุลเงินนี้ได้สูญเสียมูลค่าไปกว่า 85% จากการเทขายได้ตลอดเวลา
  • เหรียญนี้มีปริมาณที่มากเกินไป ถึงจะน้อยกว่า XRP แต่ก็ยังไม่มีความนิยม จึงทำให้ราคาเหรียญนั้นมีมูลค่าที่ผันผวน ในปัจจุบันก็ยังถือว่า ราคาอยู่ในระดับราคาที่ต่ำอยู่ เมื่อเทียบกับปี 2021 ที่ผ่านมา
  • สินทรัพย์ดิจิทัลในปัจจุบันนี้ยังเป็นเรื่องที่ใหม่ จึงมีความเสี่ยงเกี่ยวกับปัญหาในเรื่องของการถูกโจมตีทางข้อมูล

สรุป เหรียญ สเตล่า คริปโตที่กระจายอำนาจสู่บุคคลทั่วไป

เหรียญ สเตล่า

เหรียญที่มีผู้พัฒนาเป็นคนเดียวกันกับรุ่นพี่อย่าง XRP ที่มีมูลค่าตลาดอยู่มีอันดับ 7 โดยมีจุดประสงค์ต่างกันที่ เหรียญนี้มีการกระจายอำนาจไปสู่ บุคคลทั่วไปมากกว่า และเป็นอิสระไม่ขึ้นต่อธนาคารใดๆ แบบเหรียญก่อนหน้านี้ ซึ่งเหรียญนี้ยังมีความโดดเด่นมากในเรื่องของค่าธรรมเนียมที่ถูกสุดๆ

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง