เหรียญ บิตคอยน์ ราชาคริปโต บล็อกเชนอันดับ 1 ของโลก

เหรียญ บิตคอยน์

เหรียญ บิตคอยน์ (Bitcoin) เป็นเหรียญที่ถือว่าเป็นเหรียญคริปโตแรกของโลก และยังมีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลกในปัจจุบัน แถมยังมีการจำกัดของอุปทานให้มีการผลิตลดลงเรื่อยๆ ได้เพื่อให้มูลค่าของตัวมันเองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บทความนี้จึงเป็นการพูดถึง การก่อตั้งเหรียญนี้ และความน่าสนใจในการทำงาน พร้อมรายละเอียดอื่นๆ 

เหรียญ บิตคอยน์ คืออะไร และประวัติการเกิด

สกุลเงินดิจิทัลเป็น เหรียญ กลุ่มรักษามูลค่า ซึ่งเป็นเหรียญที่ใช้เก็บสะสมมูลค่า และใช้แลกเปลี่ยนกันได้อย่างอิสระผ่านเครือข่ายที่เรียกว่าบล็อกเชน โดยหัวใจของบิตคอยน์ คือการทำงานแบบกระจายศูนย์ ไม่ต้องอาศัยคนกลางมาควบคุม แม้กระทั่งผู้สร้างเองก็ยังไม่มีใครรู้ตัวจริงได้ เพื่อป้องกันการรวมอำนาจต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยเหรียญนี้ยังมีความเป็นสาธารณะที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ 

บิตคอยน์ เหรียญนี้ถูกสร้างขึ้นมาราวปี 2009 โดยบุคคลไหนก็ไม่รู้ ที่ใช้นามแฝงว่า “Satoshi Nakamoto ซึ่งอาจเป็นบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่มีจุดประสงค์ในการแก้ปัญหาการเงินที่มักถูกควบคุมโดยกลไกตลาดจากตัวกลาง โดยเหรียญนี้ก็เติบโตขึ้นทุกๆ 4 ปี และกลายเป็นต้นกำเนิดของการทำงานในระบบบล็อกเชน เพียงในเรื่องการขุด อาจต้องใช้อุปกรณ์การประมวลผลสูงๆ [1]

Bitcoin Halving วัฏจักรของการรักษามูลค่า

หนึ่งในกลไกของการผลิตเหรียญบิตคอยน์ ที่เป็นโค้ดฝังลงไปในบล็อกเชนของเหรียญตัวนี้ โดยจะถูกตั้งค่าและไม่มีการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งจะลดรางวัลสำหรับการขุดเมื่อครบ 210,000 บล็อก ก็จะถูกนับใหม่โดยลดจำนวนลงครึ่งหนึ่ง และทุก 1 บล็อกจะใช้เวลาในการสร้าง 10 นาที หมายความว่าทุกๆ 210,000 บล็อกก็จะใช้เวลาขุดราวๆ 4 ปี ตั้งแต่ปี 2009-ปัจจุบันก็มีการเกิด Halving ไปแล้ว 4 ครั้ง

  • ครั้งที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555 เป็นครั้งแรกของการ halving โดยรางวัลบล็อกลดลงจาก 50 บิตคอยน์ ต่อบล็อกเหลือ 25 เหรียญต่อบล็อกเหตุการณ์นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นสินทรัพย์สุดฝืดของเหรียญนี้ ส่งผลให้ราคาก็พุ่งจากแต่เหรียญละ 12 ดอลลาร์ไปแตะ 1,000 ดอลลาร์ และลดลงมาโดยปรับฐานราคาใหม่ที่ 500 ดอลลาร์
  • ครั้งที่ 2  เดือนกรกฎาคม 2559 ลดรางวัลบล็อกลงจาก 25 เหรียญเหลือ 12.5 เหรียญต่อบล็อก ซึ่งใน 1-18 เดือนราคาก็ถูกดันขึ้นเรื่อยๆ จาก 650 ดอลลาร์ ขึ้นไปอย่างก้าวกระโดดเป็น 19,700 ดอลลาร์เลย
  • ครั้งที่ 3  เดือนพฤษภาคม 2563 ลดรางวัลบล็อกลงจาก 12.5 เป็น 6.25 เหรียญต่อบล็อก เหตุการณ์ครั้งนี้บิตคอยน์กลายเป็นกระแสดังในอีก 6 เดือน จากราคาที่พุ่งอย่างน่าตกใจจาก 8,000 ดอลลาร์ ขึ้นไปสู่ All time high ใหม่คือ  69,000 ดอลลาร์ด้วยเวลาที่เร็ว กว่ารอบก่อนๆ จนเป็นเหรียญที่มีคนรู้จักกันเป็นวงกว้าง
  • ครั้งที่ 4 ที่เพิ่งเกิดขึ้นไปสดๆ ร้อนๆ ในช่วงเดือนเมษายน 2024 ที่ผ่านมานี้เอง ที่ปรับลดลงไปอีกจาก 6.25 เหลือเพียง  3.125 บิตคอยน์ต่อบล็อก ซึ่งครั้งนี้เพียง 2 เดือน ราคาก็ถูกดันขึ้นมาเป็น 67,705.40 ก่อนจะลดลงไปยืนที่ 56,636 ดอลลาร์หรือราว 2,060,594 บาท และอาจจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้จนแซงสถิติเดิมอีกครั้งแน่ๆ 

ที่มา: เจาะลึก Bitcoin halving 4 ปีมีครั้ง ปรากฏการณ์นี้จะทำให้ราคารุ่งหรือร่วง? [2]

จุดเด่นที่ทำให้ BTC มีความพิเศษกว่าเหรียญอื่น

เหรียญพระเอกของเรื่องคริปโตตัวร้าย ซึ่งจากที่อ่านก็อาจทราบถึงมีที่มาที่ไปอย่างไรบ้างแล้ว ซึ่งความน่าสนใจของเหรียญนี้ก็ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ โดยนอกจากจะมีเงื่อนไขสุดเท่ในการขุดแล้ว เหรียญตัวนี้ยังมีจุดเด่นอื่นๆ ที่น่าสนใจถึง 3 จุดเด่นที่ทำให้เหรียญนี้ มีเสน่ห์ไม่เหมือนเหรียญอื่นๆ ซึ่งก็เป็นหนึ่งเดียวที่ถูกจับตามอง และพูดถึงมากที่สุดในบรรดาเหรียญดิจิทัลทั้งหมดในโลก

  1. เหรียญดังกล่าวนี้ สามารถขุดขึ้นมาได้โดยบุคคลทั่วไปเลย  แต่จะมีการจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญทั่วโลก คาดว่าจะขุดหมดราวปี 2140 และเมื่อความต้องการซื้อที่ยังคงมีเพิ่มเรื่อยๆทุกปี บวกกับการลดจำนวนรางวัลให้หายากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่ามูลค่าของบิตคอยน์ก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งก็คืออีกเสน่ห์ที่ทำให้บรรดาเทรดเดอร์ต่างเฝ้ารอซื้อ-ขายเหรียญตัวนี้จนอยู่อันดับ 1 
  2. ทุกการเคลื่อนไหวในบิตคอยน์ ล้วนเป็นระบบการทำงานบนพื้นฐานของ Decentralised ซึ่งไม่มีการถูกควบคุมจากคนกลาง หรือสถาบันการเงินใดๆ แม้แต่ผู้สร้างเองก็ยังไม่สามารถแทรกแซงระบบใดๆ ได้ ทำให้มันสามารถแลกเปลี่ยนบิตคอยน์ได้แบบอิสระในเวลาเพียงไม่กี่นาที แถมยังสามารถย้อนตามดูข้อมูลได้ตั้งแต่การทำธุรกรรมครั้งแรก ได้อย่างละเอียดมากๆ 
  3. ใช้ซื้อสินค้าและบริการได้จริง ซึ่งเหรียญนี้นอกจากจะซื้อเพื่อทำกำไรแล้ว ทุกวันนี้ในหลายประเทศยังสามารถใช้เหรียญตัวนี้ใช้ซื้อสินค้าและบริการได้เสมือนเงิน Fiat เพราะบิตคอยน์สามารถแบ่งจ่ายออกเป็นหน่วยย่อยๆ ได้ ซึ่ง 1 บาทก็ได้ 0.00000047 BTC แล้วไม่ว่ากี่บาทหรือกี่ดอลลาร์ก็ซื้อได้ เว้นแต่สกุลเงินที่มูลค่าน้อยจริงๆ 

ที่มา: ทำความเข้าใจ Bitcoin คืออะไร? ภายใน 3 นาที [1]

ราคา และรายละเอียดเกี่ยวกับเหรียญนี้

สำหรับราคาของบิตคอยน์ในช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงคลูดาวน์จากการพุ่งขึ้นไปกว่า 7 หมื่นดอลลาร์ ซึ่งราคา ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2024 ก็ลดลงมาอยู่ที่ 56,636 ดอลลาร์หรือราว 2,060,594 บาท ซึ่งยังคงอยู่ที่เหรียญคริปโตอันดับ 1 ไม่สั่นคลอน โดยยังมีรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับเหรียญนี้ด้านมูลค่า และอุปทานอีกด้วยดังนี้

  • มูลค่าตามราคาตลาดที่เยอะที่สุดในโลก: 1.12 ล้านล้านดอลลาร์
  • ปริมาณการซื้อขายต่อวัน: 37.65 พันล้านดอลลาร์
  • อุปทานหมุนเวียนในระบบ: 19.72 ล้าน BTC
  • อุปทานสูงสุด: 21 ล้าน BTC

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ coinmarketcap

มูลค่าของ เหรียญ บิตคอยน์ เกิดจากอะไร

คุณลักษณะทั่วไปที่ทำให้สกุลเงินต่างๆ หรือทองคำมีมูลค่าได้ ก็คือความสามารถในการแบ่งจ่ายได้ ออกเป็นหน่วยย่อยๆ การเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป, ของแรร์ และปลอมแปลงได้ยาก ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ก็มีอยู่ในบิตคอยน์ด้วยเพิ่มมาด้วยการเข้าถึง และพกพาได้ง่าย และหัวใจหลักของบิตคอยน์ ที่เหมือนทองคำเลยคือการมีมูลค่าขึ้นมาจาก ความขาดแคลน อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้

ซึ่งจำนวนบิตคอยน์นั้นก็มีอยู่จำกัดที่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น และบวกกับการลดจำนวนในการผลิตทุกๆ 4 ปี หากยังเป็นที่ 1 ต่อไปอย่างนี้ ก็จะเป็นไปตามทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์พื้นฐานอย่างความสัมพันธ์ของ Demand ‘n’ Supply เมื่ออุปทานมีอยู่อย่างจำกัดและลดลงเรื่อย ๆ ในขณะที่ความต้องการยังมีเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสวนทางกัน ราคาของสิ่งนั้นก็จะปรับตัวสูงขึ้นนั่นเอง [3]

กองทุน ETF ของเหรียญนี้ที่อนุมัติในปี 2024 ที่ผ่านมา

บิตคอยน์ ETF สิ่งนี้คือกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในบิตคอยน์ ที่จะเข้าไปซื้อเพื่อถือครองจริง ซึ่งจะยิงทำให้เป็นที่รู้จังมากขึ้นในวงการการลงทุนของสายกองทุน และเพิ่มกำลังซื้อให้กับตลาดของ BTC ในปัจจุบันมากขึ้นแน่นอน โดยทาง Standard Chartered คาดว่า Spot ETF 10 กว่าตัวนี้ จะสามารถดึงดูดเม็ดเงินเข้ามาในตลาดได้ราว 100,000 ล้านดอลลาร์ในปีเดียวเลย โดยปัจจุบันก็มีถึง 11 ตัวที่อนุมัติแล้ว

  • Bitwise (BITB) 
  • ARK Invest/21Shares (ARKB) 
  • Invesco Galaxy ETF (BTCO) 
  •  iShares (IBIT) 
  • VanEck (HODL) 
  • Franklin ETF (EZBC) 
  •  Fidelity Wise Origin (FBTC)
  • WisdomTree (BTCW) 
  • Valkyrie Fund (BRRR) 
  • Hashdex Futures ETF (DEFI) 
  • Grayscale (GBTC)

ที่มา: สรุปรายชื่อ Spot Bitcoin ETFs ที่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ อนุมัติให้ลงทุนได้แล้ว [4]

สรุป เหรียญ บิตคอยน์ คริปโตหนึ่งเดียวที่ต่างจากเหรียญอื่นๆ 

เหรียญ บิตคอยน์

เหรียญหนึ่งเดียวที่ใครๆ ก็รู้จัก และยืน 1 ในเรื่องมูลค่าตลาดมาโดยตลอด กว่าล้านล้านดอลลาร์ แถมยังไม่มีเหรียญไหนเฉียดมาใกล้เลย แม้แต่เหรียญอันดับ 2 อย่าง ETH โดยก็มีการทำงาน และการรักษามูลค่าที่น่าสนใจอย่างมากทุกๆ 4 ปี แถมยังสามารถใช้จับจ่ายซื้อสินค้าได้หลายประเทศแล้ว

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง