เหรียญ คาสปา โทเคนที่เน้นความเร็ว และปรับขนาดได้

เหรียญ คาสปา

เหรียญ คาสปา (Kaspa) โทเคนที่จัดอยู่ใน หรียญ ส่งต่อมูลค่า โปรโตคอลที่กลับมาใช้การทำงานแบบ Ordinals ของ Bitcoin หลังจากที่ทางเครือข่ายของ Ethereum ที่เปลี่ยนไปใช้กลไกฉันทามติ Proof-of-stake ซึ่งเหรียญ Kaspa ก็เป็นโครงการเหรียญ Layer1 ที่เร็วและยังสามารถปรับขนาดได้สูง ตามกลไกฉันทามติแบบ PoW 

ประวัติ Kaspa และทีมงานเบื้องหลังโทเคนนี้

โครงการของคาสปา เริ่มแรกสร้างขึ้นมาจากกลุ่มการวิจัย และพัฒนา ที่ชื่อว่า DAGLabs บริษัทวิจัยและพัฒนาจากผู้ก่อตั้งหลักๆ อย่าง Yonatan Sompolinsky นักวิจัยปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เข้ามาพัฒนาเครือข่ายนี้ ซึ่งภายหลังบริษัทนี้ก็ถูกยุบไป ซึ่งทางทีมพัฒนาหลักๆ ในปัจจุบันก็ยังมีการเดินหน้าต่อไปนำโดย Michael Sutton, Shai Wyborski และอีกมากมาย

ด้วยความเชี่ยวชาญต่างๆ ที่มีทั้งในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์, การพัฒนาระบบแบบกระจายอำนาจ, การเข้ารหัส  รวมไปถึงความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยร่วมกันออกแบบนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เรียกว่า blockDAG ที่รองรับอัตราการบล็อกที่รวดเร็วมากๆ พร้อมการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปลายปี 2021 โดยไม่มีการขุดล่วงหน้า หรือมีการขายล่วงหน้า [1]

นวัตกรรม และการทำงานของ เหรียญ คาสปา

โดยในการทำงานหลักๆ ของเครือข่ายนี้ เป็นการทำงานผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนด้วยโปรโตคอล GHOSTDAG อันเป็นนวัตกรรมของเครือข่ายนี้ที่ช่วยให้การสร้างบล็อกแบบขนานอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นเอกฉันท์ และยังสามารถเพิ่มความเร็วของธุรกรรมได้มากขึ้น ด้วยอัตราการตรวจสอบบล็อกหนึ่งต่อวินาที ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเร่งความเร็วเป็น 10 ถึง 100 บล็อกต่อวินาทีไปอีก

  • Simple Payment Verification (SPV) อีกหนึ่งคุณสมบัติที่สำคัญ ที่สามารถเพิ่มศักยภาพให้กับการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมในแต่ละบล็อกได้โดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดบล็อกเชนไปเต็มรูปแบบ
  • ในด้านการเงินของคาสปา ก็มีนโยบายการบริหารทุน และการเงินที่เป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่าเฟสสี โดยเป็นการลดรางวัลบล็อกลงเรื่อยๆ ตามความถี่ที่ต่อเนื่องกัน หรือที่บิตคอยน์มีก็คือการ Halving โดยจะลดรางวัลที่จะได้ไปครึ่งหนึ่งทุกครั้งที่สร้างบล็อกครบตามกำหนด
  • การนำเสนอโซลูชันเลเยอร์ 2 ที่เป็นขั้นสูง ซึ่งสามารถแก้ปัญหาความ เกี่ยวกับท้าทายหลักของระบบ PoW นี้ ในของความแออัดของเครือข่าย และความสามารถในการขยายขนาด ซึ่งก็ยังอุปสรรคต่อสกุลเงินดิจิทัลนี้ อย่าง Bitcoin และเหรียญแบบดั้งเดิมอีกจำนวนมาก

ที่มา: Kaspa (KAS) Crypto Coin: คำแนะนำโดยละเอียด [2]

เอกลักษณ์เฉพาะตัวของโทเคน คาสปา ที่ไม่เหมือนใคร

ในส่วนนี้จะเป็นการนำเสนอจุดเด่นของเหรียญนี้ที่ทำเหรียญเป็นโทเคนที่ไม่เหมือนเหรียญส่วนมากในโลกไม่ว่าจะเป็นด้านการออกแบบ ค่าธรรมเนียม และการรองรับธุรกรรมแบบง่ายๆ  ซึ่งก็ทำให้ Kaspa โดดเด่นขึ้นมาในโลกบล็อกเชน ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการที่ทำให้แตกต่างจากระบบดั้งเดิมดังนี้

  • การออกแบบของ BlockDAG: หนึ่งอย่างที่ทำให้เกิดความแตกต่างจากเชนทั่วไปที่ทำงานบนห่วงโซ่เดียว แต่กับเชนของคาสปาใช้เฟรมเวิร์ก BlockDAG ที่ช่วยให้สามารถประมวลผลธุรกรรมได้แบบขนาน หลายๆ ห่วงโซ่ มันจึงขยายขนาดได้ ส่งผลให้เวลาในการทำธุรกรรมเร่งได้เร็วขึ้น
  • โปรโตคอล GHOSTDAG: การทำหน้าที่เป็นผู้จัดการในการรับส่งข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ มันจึงช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจถึงการทำงานที่ราบรื่น และมีความปลอดภัยของเครือข่ายจากการตรวจสอบธุรกรรมแบบ PoW และรักษาลำดับที่เหมาะสมตามกลไกการทำงาน
  • การใช้บล็อกที่ถูกต้อง: แนวทางที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของทางคาสปา ที่มีการรวมบล็อกที่ถูกต้องทั้งหมดไว้ด้วยกัน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายให้สูงขึ้น และลดการสูญเสียทรัพยากรในการคำนวณ 
  • ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ลดลง: ผลพลอยได้จากความสามารถในการประมวลผลที่รองรับได้เพิ่มขึ้น Kaspa จึงสามารถเสนอค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ถูกมาก หากเทียบกับบล็อกเชนอื่น ซึ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับผู้ใช้ที่ทำธุรกรรมได้ไม่น้อย
  • ปริมาณธุรกรรมสูง: การจัดการธุรกรรมที่มีปริมาณมากๆ คาสปาก็ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนำไปใช้อย่างแพร่หลาย 

ที่มา: Kaspa (KAS) Crypto Coin: คำแนะนำโดยละเอียด [2]

ราคา KAS เหรียญอันดับ 22 ที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด

ด้านของราคาและมูลค่าของเหรียญนี้ ปัจจุบันมูลค่าตลาดก็มีมากจนมีอันดับที่ 22 ของโลก แสดงถึงความนิยมในการใช้เหรียญนี้ โดยเป็นการอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ coinmarketcap ในวันที่ 8 สิงหาคมปี 2024 ราคาก็อยู่ที่ 0.1599 ดอลลาร์ หรือประมาณ 5.68 บาทต่อ 1 เหรียญเท่านั้นเอง ซึ่งก็กำลังแข่งกับอีก 3 เหรียญให้ราคาขึ้นไปที่ 1 ดอลลาร์ภายในปี 2024 นี้

  • มูลค่าตามตลาดรวม: 3.9 พันล้านดอลลาร์
  • มูลค่าของตลาด 24 ชั่วโมง: 140.79 ล้านดอลลาร์
  • Supply หรือจำนวนเหรียญที่หมุนเวียนในระบบ: 24.39 พันล้านโทเคน
  • Max Supply: 28.7 พันล้านโทเคน

เข้าไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับราคาเพิ่มเติมที่ coinmarketcap

คาสปาพุ่ง 1,960% และการเป็น 3 เหรียญมาแรงในปี 2024 

โทเคน KSP ที่ผ่านมาก็มี การเติบโตแบบ exponential ที่พุ่งไปถึง 1,960% นับตั้งแต่ต้นปี 2024 ทำให้เป็นหนึ่งในเหรียญ Altcoin ที่เรียกได้ว่ามีความร้อนแรงมากๆ กับเหรียญประเภทเดียวกับอย่าง Stacks (STX) และ Pullix (PLX) ก็มีการเติบโตเช่นกัน จนกลายเป็น 3 Altcoin ที่มาแรงที่สุด

  • คาสปาก็มีการเคลื่อนไหวแบบกระทิง จากการเคลื่อนไหวที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยหลัก ในช่วงปีก่อน ซึ่งสกุลเงินดิจิทัลนี้ ก็มีราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 1,960% ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
  • สแตคเองก็มีสัญญาณบวกในกราฟ ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 47% ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกุมภา นับตั้งแต่ต้นปี ราคาของ Stacks ก็ปรับตัวขึ้น 656.3% จนเกือบจะทำจุดสูงสุดใหม่ได้ 
  • และ Pullix โปรเจกต์คริปโตใหม่ ที่มาแรงมาทั้งที่อยู่ในช่วงระดมทุน ซึ่งดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก จากการมีผู้ใช้งานกว่า 15,000 คน ในรอบลงทะเบียน ซึ่งปัจจัยสำคัญก็คือการผสมผสานระหว่างองค์ประกอบของ CEX และ DEX 

ที่มา: 3 เหรียญคริปโตที่อาจเติบโตอย่างก้าวกระโดด ก่อนถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ [3]

อัตราการ Halving และการปล่อยเหรียญ Kas

นี่ก็เป็นอีกเหรียญที่มีอุปทานสูงสุดกำหนดไว้ และยังมีการ Halving เช่นเดียวกับของ Bitcoin ด้วยนั้นก็คือการฮาร์ฟวิ่ง ซึ่งมีอุปทานสูงสุดกำหนดไว้ที่ 2.87 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งปรับมาเป็น 28.7 พันล้านโทเคน เพื่อป้องกันภาวะเหรียญไม่ให้เฟ้อมากเกินไป และยังเป็นการรักษามูลค่าของเหรียญนี้ ให้คงที่หรือเพิ่มขึ้นได้เมื่อเวลาผ่านไป

โดย Kaspa จะทำการลดจำนวนเหรียญใหม่ ที่ลดลงครึ่งหนึ่งได้ทุกๆ ปี ซึ่งจะบ่อยกว่า Bitcoin Halving ที่จะมีทุกๆ 4 ปี และหลักการที่ลดจำนวนรางวัลที่จะได้ แทนที่จะเป็นการลดลงฮวบครึ่งหนึ่งในคราวเดียว แต่คาสปาก็จะค่อยๆ ลดลงมาอย่างช้าๆ เป็นเดือนต่อเดือนแทน [1]

สรุป เหรียญ คาสปา เหรียญที่ปรับขนาดได้ และมีการ Halving

เหรียญ คาสปา

เหรียญที่มีความสามารถในเรื่องของการปรับขนาดได้ ซึ่งก็ส่งผลให้ในเรื่องของราคาค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้มีการจ่ายที่ถูกมาก และไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้เพื่อเร่งความเร็วของธุรกรรม แถมยังมีกลไกของการฮาร์ฟวิ่งในทุกๆ 1 ปีด้วยเพื่อให้เหรียญนี้มีมูลค่าคงที่ได้มากที่สุด

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง