ลงทุน หุ้นเกม การลงทุนกับบริษัทเกมที่มีหลายตัวเลือกมากทั่วโลก ซึ่งเกมไทยก็มีเช่นกัน แถมทำได้ดีด้วย การเข้ามาของเกมต่อไปในอนาคต ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยสำหรับการเข้ามาถึงของ E-sports ที่เป็นเมกะเทรนด์ที่เติบโตทั้งผู้เล่นกับผู้รับชมขึ้นอย่างมาก และรวดเร็ว บทความนี้จึงมาดูความน่าสนใจของวงการนี้ และเจาะลึกว่าไทยมีบริษัทไหนบ้างที่เราก็ไปเป็นหุ้นส่วนได้
Gaming อุตสาหกรรมเกมที่เกิดมาเพื่อยุคนี้ และอาจจะส่งผลไปเรื่อยๆ ในอนาคตจากฐานคนดูที่มากขึ้น และรางวัลการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ในอีสปอร์ตต่างๆ หากแปลตรงๆ E-sports [1] ก็คือการแข่งขันเกมออนไลน์ หรือออฟไลน์ที่มีคอมมูนิตี้ใหญ่ๆ เทียบเป็น กีฬาอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะมีกฎกติกาเป็นระบบสากล ในแต่ละทัวร์นาเมนต์ก็จะมีรางวัล และเกมที่หลากหลายมาก
ด้วยการได้รับความนิยมขนาดนี้ จึงทำให้มีการ ลงทุน หุ้นเกม ที่กลุ่มที่หลากหลายกลุ่ม ทั้งภาคข้อแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา ลงทุนแบบบริษัทที่ผลิตเกมใหม่ๆ ที่มีสเกลใหญ่ขึ้น หรือกลุ่มฮาร์ตแวร์พวกผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับการสร้างเกม ระบบจัดการไฟฟ้า และการเล่นเกมทั้งหลาย ซึ่งจะมาอธิบายของบริษัทแต่ละกลุ่มในหัวข้อต่อไป
แน่นอนว่าการมาถึงของ E-sport ทำให้มีความต้องการที่เพิ่มขึ้นของคนหลายประเทศรวมถึงในไทยด้วย เมื่อปริมาณของ Demand เพิ่มขึ้นจึงมีธุรกิจที่เป็นผู้ผลิตได้รับประโยชน์จากการเติบโตนี้ด้วย ซึ่งก็ขยายขอบเขตไปตั้งแต่บริษัทพัฒนาเกม ไปจนถึงผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์เล่นเกม และนี่คือธุรกิจ 2 ประเภทที่น่าลงทุนอย่างมาก
หุ้นเกมกลุ่ม Hardware
หุ้นเกมกลุ่ม Specialty Stores
หุ้นเกมกลุ่ม Software
ที่มา : หุ้นเกมและอุปกรณ์เกม น่าสนใจแค่ไหน? [2]
ในบทความนี้จะมาเปรียบเทียบรายได้ของสองบริษัทที่มีรายได้จากเกมมากที่สุดในตลาดหุ้นไทย ตั้งแต่ปี 2562 – 2564 จากสองบริษัทเกมกลุ่ม Software ที่ได้ยกตัวอย่างไปเมื่อหัวข้อก่อนหน้านี้ พร้อมข้อมูลทางการเงินในต้นปี 2566 โดยแต่ละบริษัทมีรายละเอียดดังนี้
บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น (AS)
กำไรจากเกมในปี 2562 ได้ 4 ล้านบาทจากเม็ดเงินกว่า 768 ล้านบาท ในปี 2563 กำไรเพิ่มขึ้นมาเป็น 307 ล้านบาท จากรายได้เข้า 1,356 ล้านบาท และปี 2564 ได้กำไร 215 ล้านบาท จากรายได้เข้ามา 87 ล้าน โดยสัดส่วนรายได้จากเกมออนไลน์ถึง 98% รวม3 ปี 8,326 ล้านบาท โดยมีข้อมูลทางการเงินปี 2566 ดังนี้
อิ๊กดราซิล กรุ๊ป (YGG)
กำไรในปี 2562 จากเกมๆ เดียวและกราฟิกงานโฆษณาได้ 49 ล้านบาทรายได้กว่า 197 ล้านบาท ในปี 2563 กำไรเพิ่มขึ้นมาเป็น 57 ล้านบาท จากรายได้เข้า 228 ล้านบาท และปี 2564 ได้กำไร 47 ล้านบาท จากรายได้เข้ามา 146 ล้าน โดยสัดส่วนรายได้จากการขายเกมแค่ 8% แอนิเมชัน 44% การโฆษณา 48% รวม3 ปี 4,032 ล้านบาท โดยมีข้อมูลทางการเงินปี 2566 ดังนี้
ที่มา : 2 บริษัท ที่มีรายได้จากธุรกิจเกม ในตลาดหุ้นไทย [3]
ธุรกิจเกมออนไลน์ที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ที่มีเกมใหม่ๆ ขึ้นมาและการแข่งขันมูลค่าสูงขึ้นทุกวัน แถมในหลายบริษัทยังเป็นตลาดที่สามารถปรับตัวไปในแพลตฟอร์มของมือถือ และคอมพิวเตอร์ไปมาได้ด้วย ในความหลากหลายก็มีบริษัทให้เลือกลงทุนถึง 3 กลุ่มใหญ่ๆ ด้วยกันทั้งในไทย และใหญ่กว่านั้นในต่างประเทศ