ลงทุนหุ้น Apple กับบริษัทที่เทคโนโลยีขับเคลื่อนโลก

ลงทุนหุ้น Apple

ลงทุนหุ้น Apple หุ้นตัวที่ใครๆ ก็น่าจะรู้จักดี และมี การเติบโตแบบ exponential เทคโนโลยีของบริษัทนี้ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเรา และหลายๆ ประเทศ กลายเป็น Standard ในสังคมหลายๆ แห่ง บทความนี้จึงมาดูรายละเอียดการก่อตั้ง และธุรกิจอื่นๆ ที่แอปเปิ้ลทำ นวัตกรรมล่าสุดรวมไปถึงกองทุนแนะนำต่างๆ ที่น่าสนใจ

รายละเอียดการก่อตั้ง บริษัท Apple

โดยในยุคเริ่มต้นบริษัทแอปเปิ้ล ได้ถูกก่อตั้งโดยบุคคลหนึ่งที่หลายคนก็อาจรู้ คือ Steven Wozniak, Steven Jobs และ Ronald Wayne ในปี ค.ศ. 1976 จากวัตถุประสงค์คือจำหน่ายคอมพิวเตอร์ระบบส่วนบุคคล หรือ PC โดยตัวแรกที่ปล่อยออกมาก็คือ Apple I ซึ่งได้รับความนิยมใน Apple II และสร้างกำไรให้กับบริษัทอย่างมาก

  • โดยหลังจากปี 1988 Steven Jobs ได้ลาออกจากแอปเปิ้ล และไปสร้างบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ NeXT Inc. ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการ ที่เป็นต้นแบบของ Mac OS X ในปัจจุบัน
  • มาถึงปี 1991 เปิดตัวคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กในชื่อ PowerBook ซึ่งเป็นตัวทำเงินชั้นดีให้กับบริษัทได้อย่างมาก พร้อมอุปกรณ์ใหม่ที่เป็นต้นแบบที่ปูทางให้กับ iPhone และ iPad เรียกว่า Newton
  • ปี 1996 Apple ได้เข้าซื้อบริษัทของ สตีฟให้เข้ากลับมาสู่อ้อมกอดบริษัทนี้อีกครั้ง มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา ก่อนจะกลายเป็น CEO ในปีต่อมา และมีการเปิดดีลกับ Microsoft ให้เข้ามาลงทุนเป็นจำนวนเงิน 150 ล้าน แลกกับ Microsoft Office ให้มาใช้บนคอมพิวเตอร์ของ Mac ได้
  • การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่มาในปี 2007 กับการเปิดตัว iPhone ให้วงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เรียกว่าสมาร์ตโฟน หน้าจอสัมผัสอย่างเต็มรูปแบบ และทำให้กระแสนี้เติบโตมาเป็นทุกวันนี้ 

ที่มา: กว่าจะมาเป็น Apple บริษัทที่มีชื่อเสียงอย่างในปัจจุบัน [1]

ธุรกิจอื่นๆ ที่บริษัทแอปเปิ้ลทำ

หลังจากยอดขายของ iphone ที่เริ่มชะลอตัวลงในปี 2015 โมเดลธุรกิจของแอปเปิ้ลก็เปลี่ยนไปเป็นการทำธุรกิจในหลายๆ ด้าน อย่างการ Focus มาที่ธุรกิจซอฟต์แวร์และการให้บริการ ซึ่งก็เป็นไปอย่างที่คิด ด้วยความเข้าถึงง่ายก็สามารถ สร้างยอดขายได้มากกว่า Mac และ iPad เสียอีกจากไตรมาสเดียวกัน โดยมีธุรกิจต่างๆ ดังนี้

  • Apple Music ธุรกิจที่ทำรายได้จาก Subscription และการขอเป็น partnership ซึ่งทำให้มีผู้ใช้งาน 56 ล้านคนเมื่อเทียบกับ Spotify ได้เกินครึ่งจาก 96 ล้านคน ในปี 2019 และสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 6.7 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
  • App store รายได้จากส่วนแบ่งการค้าจากแอปต่างๆ การซื้อ และการ Subscript ซึ่งนี่คือหนึ่งในบริการที่สร้างรายได้มากที่สุดอีกด้วย
  • Apple News+ บริการที่ให้ผู้ใช้งานอ่านนิตยสารต่างๆ จากหลายช่องทางวารสารผ่านทาง iPhone หรือ iPad ซึ่งมากกว่า 100 แห่ง รายได้หลักๆ จึงมาจาก Subscription ล้วนๆ
  • Licensing หรือ Licenses selling การขายลิขสิทธิ์ให้แก่บริษัทที่สนใจมาบริการ ติดตั้งหรือจำหน่าย เกี่ยวกับ ios อย่างเช่น Google ที่จ่ายเพื่อแลกกับการให้ User ของ iphone ใช้งาน search engine ของตนเองได้

ที่มา: ทำไม Apple ครองแชมป์แบรนด์อันดับ 1 ของโลก [2]

ไฮไลต์การเปิดตัวล่าสุด Apple Intelligence

เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่จะมาพร้อมกับการอัปเดต iOS 18 โดยสิ่งนี้คือระบบอัจฉริยะส่วนบุคคล ซึ่งจะมีการนำเสนอข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่ตรงใจผู้ใช้งานได้มากขึ้น จากขุมพลังของโมเดลเจเนอเรทีฟเข้ามาช่วยวิเคราะห์ จากแนวคิด 5 ข้อคือ powerful, intuitive, intergrated, personal และ private

โดยฟีเจอร์หลักๆ ที่นอกจากจะนำเสนอได้ดีแล้วยังมีการลำดับความสำคัญของแจ้งเตือนได้ด้วยอย่าง เมลงานหรือข้อความที่ด่วนที่สุด และยังสามารถบันทึกเสียง และถอดเสียงออกมาเป็นประโยคสนทนาได้อีกด้วย พร้อมความสามารถในการปรับสำนวนการเขียน ไปจนถึงพิสูจน์อักษร และสรุปข้อความได้แทบทั้งหมดเลย หรือประโยชน์จากการสร้างภาพที่ใช้สร้างอิโมจิที่ไม่ซ้ำใครได้ด้วย [3]

โพยกองทุนที่มีการ ลงทุนหุ้น Apple พร้อมสัดส่วน

โดยในหัวข้อนี้คือการรวบรวมกองทุนต่างๆ ที่มีการลงทุนใน แอปเปิ้ลทั้งหมด โดยจะมีสัดส่วนที่แตกต่างกันออกไป ในแต่ละการบริหาร และการมองเห็นโอกาสเติบโตไปพร้อมกับ AI ที่กำลังจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตจริง โดยกองทุนทั้งหมดก็มีดังนี้

  • TUSTECH-A สัดส่วนในการลงทุนกับ Apple มากที่สุดอยู่ที่ 20% ของพอร์ต
  • ES-USTECH มีสัดส่วนลดการลงทุนลงมาประมาณ 16%
  • MEGA10-A มีสัดส่วนการลงทุนอยู่ 9%
  • MEGA10AI-A สัดส่วนที่ 9% เช่นกัน 
  • ASP-TOPBRAND มีสัดส่วนการลงทุนประมาณ 8%
  • M-META สัดส่วนประมาณ 8%

ที่มา: รวมกองทุนหุ้น Apple ลงทุนกับบริษัทนวัตกรรมเปลี่ยนโลก [4]

รายละเอียด TUSTECH-A ที่มีสัดส่วน Apple มากที่สุด

กองทุนชนิดผู้ลงทุนทั่วไป ลงทุนในกองทุน The Technology Select Sector ซึ่งมีการลงทุนแบบ passive ในการสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียง หรือล้อไปกับดัชนี Technology Select Sector มากที่สุด กองทุนหลักลงทุนในหุ้นและมีการกระจุกตัว อาจมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนได้

  • ประเภทกองทุน: Technology Equity
  • ค่าธรรมเนียม: 0% ต่อปี 
  • ลงทุนขั้นต่ำ: 1,000 บาท
  • มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 99,474,346.48 บาท
  • ค่าความเสี่ยง: 7 – กองทุนในหมวดอุตสาหกรรม

ES-USTECH กองทุนในธีมเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก

เน้นลงทุนในกองทุน iShares S&P 500 ในหน่วยลงทุนชนิด Class USD และบริหารจัดการแบบ Passive เช่นเดียวกัน ซึ่งมีวัตถุประสงค์สร้างผลตอบแทนจากที่ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี S&P500 ที่สุด

  • ประเภทกองทุน: Technology Equity
  • ค่าธรรมเนียม: 0% ต่อปี 
  • ลงทุนขั้นต่ำ: 1 บาท
  • มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1,365,923,884.01 บาท
  • ค่าความเสี่ยง: 7 – กองทุนในหมวดอุตสาหกรรม

สรุป ลงทุนหุ้น Apple ผู้นำเกี่ยวกับเทคโนโลยี ในชีวิตประจำวัน

ลงทุนหุ้น Apple

ลงทุนหุ้น Apple บริษัทยักษ์ใหญ่ในการเป็นผู้นำเทคโนโลยีที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเรา พร้อมกับการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่ ให้การใช้ iphone นั้นง่ายขึ้นมากๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วยกองทุนแนะนำ ที่มีความน่าสนใจ เกี่ยวกับสัดส่วนการลงทุนกับ Apple 16 – 20%

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง