ทำความรู้จักแฟรนไชส์ มารุ วาฟเฟิล (Maru Waffle) โอกาสสำหรับคนที่อยากมีอิสระ อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ไม่อยากเหนื่อยแบบพนักงานเงินเดือนอีกแล้ว ไม่แน่ว่าการเปิดแฟรนไชส์ Maru Waffle อาจเป็นคำตอบที่ใช่ ในสายแฟรนไชส์เบเกอรี่
ข้อมูลสาระดีๆ สำหรับใครที่กำลังสนใจ ธุรกิจติดเทรนด์ ในตัวของ มารุ วาฟเฟิล นี่คือ แฟรนไชส์ Waffle สุดฮิต! ร้านขนมหวานและเครื่องดื่ม แฟรนไชส์วาฟเฟิลฮ่องกง สูตรต้นตำรับ ความอร่อย ที่ทั้งกรอบและหอม ปัจจุบันมีมากกว่า 200+ สาขาทั่วประเทศ รวมยอดขายวาฟเฟิลมากกว่า 300,000 ชิ้นต่อเดือน [1]
สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมแฟรนไชส์ Maru Waffle แต่ยังไม่รู้ว่าต้องใช้งบเริ่มต้นเท่าไหร่ และต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง สำหรับการเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์วาฟเฟิล มารุ ไม่ยากและไม่ใช้งบเยอะ อย่างที่หลายคนคิด โดยค่าใช้จ่ายในการเปิดแฟรนไชส์ [2] มีดังนี้
สำหรับรูปแบบการลงทุน ต่อยอดจากการซื้อแฟรนไชส์ มีด้วยกันทั้งหมด 4 รูปแบบในปัจจุบัน โดยจะประกอบไปด้วย 4 รูปแบบการลงทุน ด้านสถานที่ ดังต่อไปนี้
สำหรับ มารุวาฟเฟิล เป็นหนึ่งในผู้นำด้านขนมวาฟเฟิล สไตล์ฮ่องกง ด้วยจุดเด่นของขนมที่กรอบ หอม อร่อย ลอกเลียนแบบได้ยาก เป็นแฟรนไชส์ที่สามารถเรียนรู้ การบริหารร้านได้ง่าย ทั้งการเป็นเจ้าของขายเอง หรือจ้างพนักงานขายประจำร้าน ก็สามารถทำกำไรได้
ถือเป็นรูปแบบการทำธุรกิจ ที่สามารถหวังผลกำไรได้ในระยะยาว เริ่มต้นซื้อแฟรนไชส์ หรือลงทุนเริ่มต้นเพียง 43,000 บาท (ไม่รวมค่าคีออสและค่าก่อสร้าง) รายละเอียดที่น่าสนใจ เกี่ยวกับจุดเด่นของ แบรนด์ มารุ วาฟเฟิล (Maru Waffle)
มารุ วาฟเฟิล คือแฟรนไชส์วาฟเฟิลฮ่องกง No.1 ของไทย โอกาสในการทำธุรกิจ สามารถหวังผลกำไรได้จริง 100-200% ของต้นทุน ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 เดือน ซึ่งนอกจากขนมวาฟเฟิลที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวแบรนด์แล้ว ยังมีสินค้าร่วมขายอย่างเครื่องดื่ม ที่ช่วยเพิ่มยอดการขายไปในตัว อีกหนึ่งช่องทางราย ที่ไม่ควรพลาด