คริปโต คืออะไร สกุลเงินที่เปลี่ยนโลกการเงินไป อย่างสิ้นเชิง

คริปโต คืออะไร

คริปโต คืออะไร อีกหนึ่งการเงินรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นมานานกว่า 15 ปีแล้ว โดยการ ลงทุน Crypto เริ่มมาเป็นที่นิยมจริงๆ เมื่อราวปี 2019 กับ 2020 เป็นต้นมาจากการ Hype ของบิตคอยน์ที่ราคาขึ้นมาแตะจุดสูงสุดกว่าล้านกว่าบาทต่อเหรียญจากวัฏจักร Bitcoin Halving ซึ่งบทความนี้ก็จะพาผู้ที่ต้องการศึกษาเรื่องนี้ ไปรู้จักให้มากขึ้น อย่างเรื่องพื้นฐานที่ต้องรู้ก่อนลงทุน อย่างประวัติและประเภทต่างๆ ของคริปโต

คริปโต คืออะไร พร้อมไปรู้จัก ประเภทของคริปโต

สิ่งนี้คือ สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ที่ระบบของมันเองตั้งแต่การสร้างไปถึงการแลกเปลี่ยนต่างๆ โดยมีการทำงานผ่านระบบที่เรียกว่า บล็อกเชน ที่มีการรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส และถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเช่นเดียวกับสกุลเงินทั่วไปที่ใช้กันเมื่อก่อน เพียงแต่ไม่สามารถจับต้องได้ โดยเริ่มได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก พร้อมกระจายเข้าสู่ประเทศไทย [1]

มันจึงเป็นสกุลเงินใหม่ที่สร้างมาเพิ่มตอบโจทย์ในเรื่องของระยะเวลาของการโอนเงินระหว่างประเทศที่ใช้เวลานาน แถมยังมีค่าธรรมเนียมที่แพงมากๆ อีกด้วย และยังเป็นสกุลเงินที่โอนระหว่างผู้โอนกับผู้รับเท่านั้น ไม่ต้องการตัวกลางใดๆ มาตรวจสอบข้อมูลให้ เนื่องจากมันมีความปลอดภัยในตัวของมันเองอยู่แล้ว และยิ่งปัจจุบันก็มีเหรียญประเภทต่างๆ ที่ออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ดีขึ้น

เหรียญ กลุ่มรักษามูลค่า

เหรียญ กลุ่มรักษามูลค่า (Store of Value) ถือเป็นโทเค็นดิจิทัลแรกๆ ที่ออกมา โดยสามารถเพิ่มกำลังซื้อได้เมื่อเวลาผ่านไป ด้วยการจำกัดปริมาณอุปทาน ลดกำลังการผลิต หรือการกำจัดเหรียญในระบบไม่ให้เฟ้อจนเกินไป เหรียญพวกนี้จึงสามารถมีมูลค่าที่สูงขึ้นได้เรื่อยๆ หากเงื่อนไขเหล่านี้เริ่มทำงาน ซึ่งก็มีเหรียญตัวอย่างดังนี้

เหรียญกลุ่ม Smart Contract

เหรียญ สมาร์ทคอนแทกต์ คือโทเค็นดิจิทัลที่พัฒนาต่อยอดมาจากบิตคอยน์มาเป็น Ethereum ที่สามารถในการเขียนโค้ดที่ซับซ้อนลงไปในระบบได้หรือ Programmable Blockchain มันจึงเกิดระบบการแลกเปลี่ยนแบบ P2P การโอนที่แฟร์ที่สุดในโลก และไม่ต้องการตัวกลาง ซึ่งหากตรงตามเงื่อนไขที่ทั้งสองฝ่ายตกลงไว้ การแลกเปลี่ยนก็จะเกิดขึ้น และไม่สามารถเปลี่ยนได้ ซึ่งก็มีเหรียญอยู่หลายเหรียญเลย

เหรียญกลุ่มส่งต่อมูลค่า

เหรียญ ส่งต่อมูลค่า (Value Transfer) คริปโตที่ออกแบบมาสำหรับส่งต่อมูลค่าผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งจุดประสงค์ของมันคือคุณสมบัติการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว และยังมีค่าธรรมเนียมที่ลดลงมาจากเหรียญอื่นที่ถูกอยู่แล้ว ให้แทบไม่ต้องจ่ายเลย ซึ่งหลายเชนก็สร้างขึ้นมาจากฐานเชนของ ETH ซึ่งก็มีหลายเหรียญด้วยกัน

เหรียญกลุ่ม สเตเบิ้ล

เหรียญกลุ่มใหม่ที่มีมูลค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์ได้ตลอดเวลาอย่าง เหรียญกลุ่ม สเตเบิ้ล (Stablecoin) สำหรับคุณสมบัติของเหรียญนี้ คือการ peg มูลค่าของเหรียญ หรือการตรึงราคาของเหรียญไว้ที่ 1 ดอลลาร์อยู่เสมอ โดยใช้สินทรัพย์ที่มีมูลค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์ หรือใช้เงิน fiat dollar มาค้ำเองเลย ซึ่งส่วนมากใช้ในการแลกเปลี่ยนระหว่างเงินกับคริปโตต่างๆ ได้ ซึ่งก็มีเหรียญดังนี้

เหรียญกลุ่ม มีม

เหรียญกลุ่ม มีม (Meme Coins) เหรียญที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อความสนุกโดยเฉพาะ แต่บางเหรียญราคาก็ไม่ตลกเลย จากการปั่นราคาต่างๆ ของกลุ่มวาฬ และหลายๆ เหรียญก็มีไว้เพื่อการเก็งกำไรสั้นๆ เท่านั้น เพราะในระยะยาวเหรียญนี้อาจสูญเสียมูลค่าไป โดยเหรียญต่างๆ ก็มีดังนี้

เหรียญกลุ่ม DeFi

เหรียญที่ออกแบบมาสำหรับแอบต่างๆ ที่เกี่ยวกับโลกคริปโต และแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนต่างๆ ก็จะใช้ เหรียญกลุ่ม DeFi ก็จะมีทั้งเชนที่สร้างขึ้นมาใหม่ และสร้างขึ้นมาจากเชนของอีเธอเรียม ที่สามารถใส่โค้ดที่ออกแบบได้อย่างอิสระ จึงเป็นต้นแบบให้กับการสร้างแอปต่างๆ ได้หลากหลายที่แลกเปลี่ยนได้ หรือหรือสร้างประเภท เหรียญกลุ่ม GameFi ที่ใช้เพื่อฝากเพื่อรับผลประโยชน์ต่างๆ ได้ โดยมีเหรียญดังนี้

ประวัติ คริปโต และเหรียญแรกของโลก

โดยสกุลเงินดิจิทัลนี้ต้องย้อนไปกว่า 15 ปีก่อน โดยเริ่มต้นมาจากเหรียญอันดับ 1 ที่ใครๆ ก็ต้องรู้จักอย่าง Bitcoin ที่เป็นโปรเจกต์เกี่ยวกับบล็อกเชนตัวแรกของโลก ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2009 จากนักพัฒนาที่ใช้นามแฝงว่าซาโตชิ หรือ Satoshi Nakamoto ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร เพื่อให้เป็นเหรียญที่ไม่มีใครควบคุมได้แม้กระทั่งผู้สร้างเอง ให้ตอบโจทย์การกระจายอำนาจอย่างแท้จริง

ซึ่งเหรียญแรกของโลกนี้ก็มีราคาที่เติบโตขึ้นมาตลอดทุก 4 ปีตามวัฏจักรบิตคอยน์ฮาร์ฟวิ่งจากราคาไม่ถึง 10 ดอลลาร์ก็กลายมาเป็น 6 หมื่นดอลลาร์ในปัจจุบัน และกลายเป็นเหรียญอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งก็แตกย่อยออกเป็นเหรียญประเภทต่างๆ ได้หลากหลายขึ้นมาก จากเหรียญที่ออกแบบมาเพื่อซื่อเพื่อเก็บมูลค่า แก้ไขไม่ได้ กลายเป็นเหรียญเพื่อการทำกำไรระหว่างถือไว้ได้จากแอป DeFi ต่างๆ [2]

ประโยชน์ คริปโต และมีอะไรที่ทำได้บ้าง ?

จากที่เห็นประเภทต่างๆ ของคริปโตไปแล้ว ว่าแต่ละชนิดสามารถทำอะไรที่หลากหลายกว่าเดิมมากๆ ซึ่งหลักๆ แล้วประโยชน์ของคริปโต นอกจากจะเป็นสกุลเงินที่เข้าถึงง่ายแล้วก็ยังมีประโยชน์ และข้อจำกัดที่มีในตอนนี้ดังนี้

ข้อดี

  • ค่าธรรมเนียมของธุรกรรมที่ถูกกว่า
  • ความสามารถในการแก้ไขข้อมูล
  • แลกเปลี่ยนโดยไม่ต้องผ่านคนกลาง
  • ใช้สำหรับการลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนได้

ข้อเสีย

  • ไม่สามารถชำระเงินตามกฎหมายได้
  • ความผันผวนของราคา
  • การนำไปใช้กับธุรกรรมผิดกฎหมาย

ที่มา: Cryptocurrency ประโยชน์พร้อมความเสี่ยงที่ผู้เล่นใหม่ต้องรู้ทัน [3]

วิธีที่หลากหลาย ในการหาเงินจาก Cryptocurrency

ในการหาเงินจาก Cryptocurrency ในปัจจุบันก็มีวิธีที่หลากหลายมาก เกี่ยวกับการหาเงินต่างๆ ที่สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งก็จะมีทั้งที่ทำได้ง่ายๆ ไปถึงเป็นเรื่องเฉพาะทางที่ต้องไปศึกษาเพิ่มเติมเท่านั้น ซึ่งวิธีการทำเงินจาก Crypto ก็มีดังนี้

  • การลงทุนระยะยาว (Hodl) การซื้อเก็บไว้ในเหรียญประเภทรักษามูลค่าอย่างบิตคอยน์ ซึ่งจากที่ผ่านมาก็มีราคาที่เพิ่มขึ้นเรื่อย จากเพดานสูงสุดที่เพิ่มทุกๆ 4 ปี ซึ่งก็เป็นวิธีที่ซื้อไว้ในระยะยาว เพื่อรับผลตอบแทนจากส่วนต่างของราคา
  • การเทรด (Trading) การเทรดเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นๆ ในความผันผวนที่สูงมากของวงการนี้ ซึ่งสามารถทำเงินได้จำนวนสูงๆ ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงอยู่มากมาย
  • Staking การฝากเหรียญไว้เพื่อแลกสิทธิ์ในการ ตรวจสอบธุรกรรมแบบ Proof of stake ที่ใช้เหรียญของเครือข่ายนั้นๆ ไปค้ำไว้ และรับเป็นเหรียญเพิ่มเติมคล้ายกับการขุด
  • Yield Farming อีกหนึ่งวิธีการหารายได้ จากการนำสินทรัพย์ดิจิทัลไปฝากไว้ใน Liquidity Pool ในแฟลตฟอร์มที่รับฝาก เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แฟลตฟอร์มนั้นๆ และจะได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ย กับค่าธรรมเนียม
  • การขุด (Mining) วิธีหารายได้ที่มีมาอย่างยาวนานที่สุด ซึ่งจะเป็นระบบการยืนยันธุรกรรมแบบดั้งเดิม Proof of work ที่ต้องใช้การประมวลผลที่สูงในการแข่งกันถอดรหัส ซึ่งอุปกรณ์หลักๆ ก็จะมีอย่างการ์ดหน้าจอ
  • รับแอร์ดรอป (Airdrop) เป็นการแจกเหรียญของผู้พัฒนาเหรียญต่างๆ จากการติดตามแอคเคานต์โซเชียลมีเดีย แชร์หรือรีทวีตโพสต์ สมัครใช้งานเว็บไซต์ และอีกมากมาย 

ที่มา: คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) คืออะไร? พามือใหม่เข้าใจครบจบในที่เดียว [1]

สรุป คริปโต คืออะไร การเงินที่เข้าถึงง่าย และกระจายความเสี่ยง

สุกเงินในโลกใหม่ที่นับเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ สินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งมีการรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสต่างๆ ที่มีความปลอดภัยระดับหนึ่งจากเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่มีผู้รองรับการทำธุรกรรมกว่าล้าน User ซึ่งก็มีเหรียญใหม่ๆ ออกมาเกิดเป็นประเภทต่างๆ มากมาย

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง