กองทุน e-class จุดเด่น พร้อมวิธีซื้อให้คุ้มค่าที่สุด

กองทุน e-class

กองทุน e-class ก็คือกองทุนในแบบที่กองทุน passive อื่นๆ ทั่วไปทำ ก็คือการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ให้ล้อไปกับดัชนีของประเทศที่กองทุนใช้อ้างอิง อย่างของไทยก็ซื้อหุ้นในไทยหลายๆ ไม่ว่าจะเป็น Set10 หรือ Set50 หากของต่างประเทศอย่างอเมริกาก็จะเป็นหุ้น 500 ตัว เพียงแต่กองทุนแบบนี้ก็จะมีข้อดีที่ดีกว่ากองทุนทั่วไปแน่นอน ซึ่งจะมาอธิบายในบทความนี้

ประเภทต่างๆ และจุดเด่นของ กองทุน e-class

เป็นกองทุนจากธนาคาร SCB และส่วนใหญ่ในการบริหารก็จะเน้นในแบบ Passive อย่างกองทุน ETF ทั้งหลาย ซึ่งจะเน้นไปที่หุ้นต่างประเทศโดยมีให้เลือกจากกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศทั่วโลกเลย  แถมยังมีกองทุนในประเภทแบบ SSF ก็ได้ลดหย่อนภาษีอีกต่อด้วย และมีจุดเด่นที่สำคัญๆ เลย คือ

  • ฟรีค่าธรรมเนียม ทั้งการซื้อ-ขาย ซึ่งในระยะยาวก็จะยิ่งส่งผลดีอย่างมากในกำไรที่เราจะได้รับ และทั้งส่วนจากค่าธรรมเนียมและส่วนจากการลดหย่อนภาษีก็สามารถนำมาลงทุนเพิ่มไป เพื่อทบเงินต้นไปอีก
  • เงินน้อยก็สามารถลงทุนได้ ด้วยนโยบายการออมที่จำกัดไว้ที่ 200,000 ต่อ 1 คน การเริ่มซื้อกองทุนครั้งแรกจึงเริ่มที่ 1 บาทเท่านั้น และในครั้งต่อไปก็เช่นกันเหมาะอย่างยิ่งกับการออมแบบ DCA ที่เป็นการลงทุนได้ทุกเดือน หรือทุกสัปดาห์อย่างสม่ำเสมอ ได้แบบสบายๆ 
  • เข้าถึงง่าย และสะดวกด้วยการทำรายการผ่าน SCBAM Fund Click ซึ่งเป็น App ของทาง SCB เลยไม่ต้องซื้อผ่านโบรกเกอร์อื่นอีกที

ที่มา : รู้จักกองทุน e-class มีดีอย่างไร และเคล็ดลับการสร้าง 1 ล้านบาทแรก [1]

4 วิธีการซื้อกองทุนให้คุ้มค่า โดยไม่เพิ่มความเสี่ยง

การเพิ่มผลตอบแทนในการลงทุน แต่ว่าความเสี่ยงเท่าเดิมหรือใกล้เคียง ซึ่งในบทความนี้จะมาพูดถึงวิธีการถึง 4 วิธี และแน่นอนว่ามีการซื้อ กองทุน e-class อยู่ในนั้นด้วย ซึ่ง 4 วิธีที่กำลังจะพูดถึงนี้ก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง แถมไม่ต้องลงเงินที่เยอะกว่าเดิมด้วย เป็นวิธีในการสังเกตง่ายๆ ดังนี้

  • สังเกตผลตอบแทนผลเฉลี่ยในระยะยาว ในเรื่องของผลตอบแทนยิ่งเยอะก็จะส่งผลกับพลังดอกเบี้ยทบต้นไปด้วย โดยผลตอบแทนก็จะขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่กองทุนนั้นลง ก็จะมี กองทุนตลาดเงิน 0.25-1.5% ตราสารหนี้ 0.2-5% กองทุนหุ้น 8-12% ซื้อยิ่งสูงก็ยิ่งมีความเสี่ยงไปด้วย
  • ซื้อตอนราคาถูก หรือช้อน อย่างหุ้นในช่วงวิกฤต ตลาดขาลง ยกตัวอย่างหุ้นที่ผลตอบแทน 8% ต่อปีหากซื้อในช่วงที่ราคาตก เราก็จะได้ซื้อหุ้นในราคาที่ถูกกว่า ผลตอบแทนที่จะได้ก็จะมากกว่าคนที่ซื้อตอนมันขึ้นอยู่แล้วนั้นเอง และยิ่งเป็นกองทุนในระยะยาวกราฟก็จะขึ้นไปตามดัชนีแน่นอน เว้นแต่ว่าประเทศจะล่มสลายเสียก่อน
  • ค่าธรรมเนียมต่ำ หรือฟรี เพราะค่าตอบแทนที่เป็น % หากมันยิ่งสูง ผลตอบแทนก็จะยิ่งลดลงไปอย่างการลงทุน 100,000 ด้วยค่าธรรมเนียมแค่ 1.5% ผ่านไป 10 ปีเราจะถูกลดเงินไปกว่า 19,905 บาทเลย แล้วถ้าหากกองทุนที่เราเลือกมีค่าตอบแทน = 0 เงินกำไรที่จะได้ก็รับไปแบบเพียวๆ เลย ซึ่งก็มีแล้ว อย่าง  e-class Fund 
  • สิทธิประโยชน์อื่นๆ  อย่างการลดหย่อนภาษีในกองทุนพวก SSF กับ RMF ซึ่งจะประหยัดเงินก้อนได้มากถึง 5-35% ตั้งแต่ตอนที่ซื้อ โดยในกองทุนแบบ e-class ก็มีทั้ง SSF กับ RMF แถมยังมีแบบค่าธรรมเนียมต่ำด้วย

ที่มา : 4เคล็ดลับ ซื้อกองทุนยังไงให้คุ้มค่าที่สุด! |SCBAM SSF e-class [2]

แนะนำ กองทุน e-class พร้อมระยะเวลาในการ DCA

ในส่วนของกองทุนที่จะมาแนะนำในบทความนี้ก็จะเป็นกองทุน ค่าธรรมเนียมต่ำอย่าง e-class จาก SCBAM ซึ่งจะเป็น SSF ที่ลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ก่อนจะไปดูระยะเวลาการ DCA ว่าจะใช้กี่บาทและกี่ปี ถึงจะเก็บเงินต้นครบ 1 ล้านได้ โดยยกตัวอย่างจากกองทุนที่ให้ผลตอบแทน 5% ต่อปี

  • ตลาดหุ้นเวียดนาม กองทุนที่แนะนำก็จะเป็น SCBVIET (SSFE) ระดับความเสี่ยงที่ 6 ไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ ลงทุนในบริษัทชั้นนำในเวียดนาม อย่าง หุ้น 69.17% หน่วยลงทุน 25.71% เงินฝากธนาคาร P/N และ B/E 8.40% ฝากครั้งแรกที่ 1 บาท ครั้งต่อไปก็1 บาท ค่าธรรมเนียมรวม 0%
  • ตลาดหุ้นอเมริกา กองทุนที่เน้นสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีที่มีมูลค่ามากที่สุดของสหรัฐ อย่าง S&P500 ลงทุนในสินทรัพย์ในอเมริกากระจายการ 500 ตัว เทคโนโลยี การแพทย์ อุตสาหกรรม พลังงาน ฯลฯ ในสัดส่วน 98.73% เงินฝากธนาคาร 2.28% ฝากครั้งแรกที่ 1 บาท ครั้งต่อไปก็ 1 บาทเช่นกัน ค่าธรรมเนียมรวม 0.11%

ที่มา : SSF e-class กองทุนประหยัดภาษี ได้ผลตอบแทนเต็มที่จาก บลจ.ไทยพาณิชย์ [3]

กลยุทธ์ล้านแรกด้วย e-class จากกองทุนที่ทำผลตอบแค่ 5%

  • DCA เดือนละ 2000 จะใช้เวลาอยู่ที่ 22 ปี
  • DCA เดือนละ 5,000 จะใช้เวลาอยู่ที่ 12 ปีต้นๆ
  • DCA เดือนละ 10,000 จะเหลือเวลาลดลงมาที่ 7 ปี
  • และหาก DCA เดือนละ 20,000 จะใช้เวลาแค่ 3 ปีกว่าเท่านั้น

ที่มา : รู้จักกองทุน e-class มีดีอย่างไร และเคล็ดลับการสร้าง 1 ล้านบาทแรก [1]

ซึ่งหากผลตอบแทนมากกว่านั้น อย่าง 8 หรือ 12% หรือใช้เทคนิคการซื้อจากข้างบน เงินที่ใช้หรือเวลาที่ใช้ก็จะลดลงไปด้วย และทางที่ดีที่สุดการลงทุนกับเวลามักให้ผลที่คุ้มค่าเสมอ ยิ่งนานพลังของดอกเบี้ยทบต้นก็จะยิ่งทรงประสิทธิภาพ เพียงเดือนละ 2000 ใน 20 ปี ก็อาจได้มากกว่า 1 ล้านก็ได้

สรุป กองทุน e-class กำไรมากขึ้นบนความเสี่ยงที่เท่าเดิม

กองทุน e-class

การลงทุนที่สามารถซื้อได้ง่ายๆ ด้วยเงินที่ 1 บาทเท่านั้น ตัวเลือกในการลงทุนที่ช่วยทั้งการลดหย่อนภาษี และมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำมากที่สุด ซึ่งก็สามารถลงทุนในเคล็ดลับที่แนะนำไปได้ และเข้าไปเลือกได้ใน SCBAM Fund Click หรือนำกองทุนที่แนะนำไปซื้อที่นี่ได้

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง