กองทุน e-class ก็คือกองทุนในแบบที่กองทุน passive อื่นๆ ทั่วไปทำ ก็คือการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ให้ล้อไปกับดัชนีของประเทศที่กองทุนใช้อ้างอิง อย่างของไทยก็ซื้อหุ้นในไทยหลายๆ ไม่ว่าจะเป็น Set10 หรือ Set50 หากของต่างประเทศอย่างอเมริกาก็จะเป็นหุ้น 500 ตัว เพียงแต่กองทุนแบบนี้ก็จะมีข้อดีที่ดีกว่ากองทุนทั่วไปแน่นอน ซึ่งจะมาอธิบายในบทความนี้
เป็นกองทุนจากธนาคาร SCB และส่วนใหญ่ในการบริหารก็จะเน้นในแบบ Passive อย่างกองทุน ETF ทั้งหลาย ซึ่งจะเน้นไปที่หุ้นต่างประเทศโดยมีให้เลือกจากกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศทั่วโลกเลย แถมยังมีกองทุนในประเภทแบบ SSF ก็ได้ลดหย่อนภาษีอีกต่อด้วย และมีจุดเด่นที่สำคัญๆ เลย คือ
ที่มา : รู้จักกองทุน e-class มีดีอย่างไร และเคล็ดลับการสร้าง 1 ล้านบาทแรก [1]
การเพิ่มผลตอบแทนในการลงทุน แต่ว่าความเสี่ยงเท่าเดิมหรือใกล้เคียง ซึ่งในบทความนี้จะมาพูดถึงวิธีการถึง 4 วิธี และแน่นอนว่ามีการซื้อ กองทุน e-class อยู่ในนั้นด้วย ซึ่ง 4 วิธีที่กำลังจะพูดถึงนี้ก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง แถมไม่ต้องลงเงินที่เยอะกว่าเดิมด้วย เป็นวิธีในการสังเกตง่ายๆ ดังนี้
ที่มา : 4เคล็ดลับ ซื้อกองทุนยังไงให้คุ้มค่าที่สุด! |SCBAM SSF e-class [2]
ในส่วนของกองทุนที่จะมาแนะนำในบทความนี้ก็จะเป็นกองทุน ค่าธรรมเนียมต่ำอย่าง e-class จาก SCBAM ซึ่งจะเป็น SSF ที่ลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ก่อนจะไปดูระยะเวลาการ DCA ว่าจะใช้กี่บาทและกี่ปี ถึงจะเก็บเงินต้นครบ 1 ล้านได้ โดยยกตัวอย่างจากกองทุนที่ให้ผลตอบแทน 5% ต่อปี
ที่มา : SSF e-class กองทุนประหยัดภาษี ได้ผลตอบแทนเต็มที่จาก บลจ.ไทยพาณิชย์ [3]
กลยุทธ์ล้านแรกด้วย e-class จากกองทุนที่ทำผลตอบแค่ 5%
ที่มา : รู้จักกองทุน e-class มีดีอย่างไร และเคล็ดลับการสร้าง 1 ล้านบาทแรก [1]
ซึ่งหากผลตอบแทนมากกว่านั้น อย่าง 8 หรือ 12% หรือใช้เทคนิคการซื้อจากข้างบน เงินที่ใช้หรือเวลาที่ใช้ก็จะลดลงไปด้วย และทางที่ดีที่สุดการลงทุนกับเวลามักให้ผลที่คุ้มค่าเสมอ ยิ่งนานพลังของดอกเบี้ยทบต้นก็จะยิ่งทรงประสิทธิภาพ เพียงเดือนละ 2000 ใน 20 ปี ก็อาจได้มากกว่า 1 ล้านก็ได้
การลงทุนที่สามารถซื้อได้ง่ายๆ ด้วยเงินที่ 1 บาทเท่านั้น ตัวเลือกในการลงทุนที่ช่วยทั้งการลดหย่อนภาษี และมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำมากที่สุด ซึ่งก็สามารถลงทุนในเคล็ดลับที่แนะนำไปได้ และเข้าไปเลือกได้ใน SCBAM Fund Click หรือนำกองทุนที่แนะนำไปซื้อที่นี่ได้